ป่าไม้ร่วมสอบรุกเขาภูเก็ต “สิระ”ลงพื้นที่ยื่นฟันจนท.รัฐ-นายทุน

16 ส.ค. 2562 | 13:14 น.

ป่าไม้ร่วมสอบรุกเขาภูเก็ต “สิระ” เตรียมลงพื้นที่วันอาทิตย์นี้ ยื่นฟัน"เจ้าหน้าที่รัฐร่วมมือนายทุน"

กรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ  เเถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากชาวบ้านกะตะน้อย อ.เมืองจ.ภูเก็ต ร้องเรียนนายสิระ ให้ตรวจสอบกรณีเอกชนบางรายใช้เอกสารสิทธิมิชอบก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยหลายอาคารในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต แเละศาลปกครองนครศรีธรรมราช ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนหนังสือรับรองประโยชน์ (น.ส.๓ก.) เลขที่ 1863 ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ดินเเปลงดังกล่าวว่าออกโดยมิชอบ เเต่มีการอุทธรณ์คดีนี้ต่อศาลปกครองสูงสุดนั้น  


นายสิระระบุในการเเถลงข่าวด้วยว่า หลังจากตรวจสอบเรื่องนี้ ทำให้นายสิระถูกอิทธิพลมืดเข้ามาข่มขู่ว่าจะฆ่า เเต่นายสิระจะนำเรื่องนี้ไปยื่นให้รมว.ยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) พิจารณาขึ้นเป็นคดีพิเศษ 


ความคืบหน้ากรณีดังกล่าาวนั้น นายอรรถพล เจริญชันษา   อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรณีที่นายสิระเเถลงข่าวดังกล่าว ตนได้สั่งการให้สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 จ.กระบี่ ประสานกับตำรวจและหน่วยงานในพื้นที่ เบื้องต้นทราบว่ามีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3ก แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ จ.ภูเก็ตนั้นเป็นพื้นที่เป้าหมาย ที่กรมป่าไม้ไปตรวจสอบหลายแปลง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ เขตป่าสงวนหรือแม้แต่พื้นที่สปก. ซึ่งล่าสุดที่ไปทวงคืนมาคือบริเวณเขานาคเกิด และพยายามจะจัดตั้งเป็นป่าชุมชน


"พื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตถือเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะมีศักยภาพในเรื่องของที่ดินที่มีราคาแพง เหมาะสมกับการท่องเที่ยว จึงมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี แสวงหาผลประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องการยึดถือครอบครองโดยไม่ชอบจึงเร่งดำเนินการอยู่”นายอรรถพล กล่าว 

ส่วนกรณีนี้นายสิระระบุมีอดีตนายตำรวจใหญ่เกี่ยวข้องจะทำให้การดำเนินงานล่าช้าหรือไม่ นายอรรถพล บอกว่า ภายใต้นโยบายของรมว.ทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม และศูนย์พิทักษ์ป่า  ไม่มีการละเว้นใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการบุคคล หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพล หากพบความผิดจะดำเนินการทั้งหมด


"หลังจากนี้คงต้อง ตรวจสอบการได้มาของเอกสารสิทธิ์ว่าได้มาอย่างไร ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ป่าก็จริงแต่ว่าถ้าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายก็ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กรมมีเทคนิคในการตรวจสอบโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม การตรวจสอบจากระบบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการได้มาของเอกสารสิทธิ์ สามารถพิสูจน์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ หากข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นเอกสารที่ออกไม่ชอบ ต้องนำไปสู่การเพิกถอนต่อไป” นายอรรถพล ระบุ


รายงานข่าวจากคณะทำงานของนายสิระ เปิดเผยว่า  ข้อเท็จจริงกรณีนี้คือ    มีการก่อสร้างโครงการพี(นามสมมติ)เมื่อวันที่ 16มกราคม 2561โดยบริษัทก. จำกัด(นามสมมติ) ได้ยื่นคำขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยจำนวนหลายอาคารต่อเทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต บนที่ดินน.ส.๓ก.เลขที่1863 ที่มีปัญหา โดยมีเนื้อที่ 17ไร่ 1งาน 4ตารางวาโดยมี พลตำรวจเอกนนอกราชการนายหนึ่ง และนายท.(ชื่อย่อ) เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินเเปลงดังกล่าว 


รายงานข่าวเเจ้งว่า ความเป็นมาของที่ดิน น.ส.๓ก. เลขที่ 1863นั้น ซึ่งในการยื่นขออนุญาตดังกล่าวบริษัทฯ ต้องนำสำเนาหรือภาพถ่ายโฉนดที่ดินขนาดเท่ากับต้นฉบับจริง และเจ้าของที่ดินลงนามรับรองเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญประกอบคำขอดังกล่าว เเต่ทราบว่าบริษัทฯ ไม่สามารถนำโฉนดที่ดินและ/หรือสำเนาโฉนดที่ดินมาแสดงต่อเทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต ได้ เนื่องจาก ยังไม่สามารถนำที่ดิน น.ส.๓ก. เลขที่ 1863มายื่นขอออกโฉนดได้ เพราะยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองเพื่อพิจารณาเพิกถอนการออกที่ดิน เเปลงดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (คดีหมายเลขดำที่ ๑๔๗/๒๕๕๕ คดีหมายเลขแดงที่ ๒๖๖/๒๕๖๐ ) 

                              ป่าไม้ร่วมสอบรุกเขาภูเก็ต “สิระ”ลงพื้นที่ยื่นฟันจนท.รัฐ-นายทุน

 

รายงานข่าวเเจ้งว่า ศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำพิพากษาเพิกถอนหนังสือรับรองประโยชน์ (น.ส.๓ก.) เลขที่ 1863โดยให้มีผลย้อนหลังนับจากวันที่มีหนังสือรับรองประโยชน์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 31สิงหาคม 2560 และในปัจจุบันคดียังอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์ของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ตทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวและสามารถพิจารณาและมีเหตุอันเชื่อได้ว่า บริษัทฯ จะไม่สามารถนำโฉนดที่ดินมาแสดงต่อเทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต ได้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด  


กรณีนี้ชาวบ้านระบุว่าเเทนที่เทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต จะปฏิเสธไม่รับคำขอดังกล่าวของบริษัทฯดังกล่าว เพราะเอกสารประกอบคำขอไม่ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522  เเต่เทศบาลตำบลกะรนกลับพิจารณารับคำขอดังกล่าวว่าเป็นการขออนุญาตก่อสร้างแบบมีเงื่อนไข โดยอ้างว่าได้กระทำไปตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 และเทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดจำนวนหลายอาคาร เลขที่ 16/2561เมื่อวันที่ 19กุมภาพันธ์ 2561โดยนายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรนในฐานะผู้มีหน้าที่ในการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เป็นผู้ลงนามในใบอนุญาตดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 10เมษายน 2561 เทศบาลตำบลกะรน ยังได้เเจ้งหนังสือถึงบริษัทฯดังกล่าว โดยมีใจความว่า เทศบาลตำบลกะรน รับรู้รับทราบถึงข้อเท็จจริงที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด และยังคงให้ความเห็นแก่บริษัทฯ ในทำนองว่า เทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต อนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้

“จะเห็นได้ว่า เทศบาลตำบลกะรน  โดยนายทวี ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จากการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดให้แก่บริษัทฯโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชาวบ้านกะตะน้อยอย่างร้ายแรง เพราะผลจากการตัดไม้เพื่อเตรียมการก่อสร้างโครงการนี้ส่งผลให้เมื่อฝนตกก็จะเกิดการไหลตัวของน้ำ ดินโคลน และเศษวัสดุก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ลงสู่พื้นที่ด้านล่าง ซึ่งเป็นบ้านเรือน เเละภาคธุรกิจตลอดจนบ่อน้ำของประชาชนโดยเฉพาะชาวบ้านกะตะน้อย ได้รับความเสียหายนอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดดินโคลนถล่มลงมาในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวอีกด้วย

ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ 1.เกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน การออก นส. 3ก. ในพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นที่เขา ภูเขา ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมป่าไม้พื้นที่เขานาคเกิด, กรมที่ดินผู้ลงนามออกเอกสารสิทธิ์,จังหวัด,หน่วยงานพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่, ข้าราชการที่เกี่ยวข้องผู้ที่ครองตำแหน่งในขณะที่มีการดำเนินการหรือกระบวนการขอออกเอกสารสิทธิ์นี้ในที่เกิดเหตุ 


สำหรับนายทุนผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์ จะเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริงจากการสืบสวนสอบสวนของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่จะรับเรื่องและเข้ามาทำการสืบสวนสอบสวนสรุปเรื่องนี้เพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดนั้น ๆ มาลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


2.เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในที่ดินดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่อง ผู้นำเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ หรือเสนอเรื่องต่อผู้มีอำนาจอนุญาต/อนุมัติ ว่าได้อนุญาต ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หลักเกณฑ์การพิจารณานั้น ๆ ถูกต้องแท้จริงแล้วหรือไม่ 


3.ฝ่ายผู้ก่อสร้าง ได้ใช้ความระมัดระวังในการก่อสร้าง คำนึงถึงผลกระทบจากการดำเนินการก่อสร้าง รอบด้านในพื้นที่ข้างเคียงซึ่งเป็นแนวป่าเขา และทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้รอบข้างไม่ว่าจะเกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้อาศัยถิ่นแถวนั้น หรือไม่ เพราะแหล่งน้ำเกิดความเน่าเหม็นมลภาวะ ที่เกิดจากเศษวัสดุก่อสร้าง

4.ภาครัฐที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด และช้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เกิดเหตุได้ตรวจตราตามภาวะหน้าที่หรืออำนาจหน้าที่ของตนในพื้นที่ที่รับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนแล้วหรือไม่ 


5.ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะหากมีการสร้างแล้วเสร็จและมีการชำระจำนวนเงินของผู้ซื้อครบถ้วนสมบูรณ์แล้วมีการเพิกถอน เอกสารสิทธิ์หรือมีคำพิพากษาของศาล ปกครองสูงสุดว่า เอกสารสิทธิ์ออกโดยไม่ชอบ โดยออกในเขตป่า หรือไม่มีการยึดถือครอบครองสืบทอดต่อเนื่องเป็นต้น จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ความเชื่อถือทางเครดิตต่าง ๆ ของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติด้วย

6.การก่อสร้างที่อ้างว่าได้รับอนุญาตซึ่งชอบหรือไม่ชอบตามกฎหมายกันก็ตามหากดำเนินการก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเดือดร้อนรำคาญเกิดมลพิษมลภาวะหรือมลพิษหากก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนผู้อาศัยในถิ่นแถวนั้น ภาครัฐท้องถิ่นต้องตรวจตรา รับผิดชอบความเป็นอยู่ของประชาชนนั้น ต้องพิจารณาว่าได้ปล่อยปละละเลยการทำหน้าที่หรือไม่ 

“นายสิระรับปากชาวบ้านว่าเเม้จะเป็นส.ส.กทม. เเต่จะลงพื้นที่เเละประสานส.ส.ภาคใต้ของพรรคช่วยกันดูเเลเรื่องนี้ เพราะนายทุน ข้าราชการเเละอดีตข้าราชการบางคนดำเนินการเเบบนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทรัพยากรของชาติไม่ควรโดนทำลาย เเละควรรอคำสั่งศาล เเต่นายสิระเป็นส.ส.เเละพรรคพลังประชารัฐจะช่วยติดตามเรื่องนี้อย่างเต็มที่เเละจะลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านรวมทั้งไปติดตามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าทีรัฐที่เกี่ยวข้องในวันอาทิตย์เเละวันจันทร์นี้ด้วย” แหล่งข่าวระบุ