ไม่บังควร!ฝ่ายการเมืองนำปมถวายสัตย์ฯมาโจมตีกัน

18 ส.ค. 2562 | 03:12 น.

สำนักวิจัย “ซูเปอร์โพล”เผยประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.3 ระบุเป็นการไม่บังควร ถึง ไม่บังควรอย่างยิ่งที่ฝ่ายการเมืองนำปมถวายสัตย์ฯ มาโจมตีกัน   หนุน“บิ๊กตู่”เหมาะเป็นนายกฯที่สร้างผลงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน

 ไม่บังควร!ฝ่ายการเมืองนำปมถวายสัตย์ฯมาโจมตีกัน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ปมถวายสัตย์ฯ ในสายตาประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,102 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง 10 - 17 สิงหาคม. พ.ศ. 2562 ทีผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.3 ระบุเป็นการไม่บังควร ถึง ไม่บังควรอย่างยิ่งที่ฝ่ายการเมืองนำปมถวายสัตย์ฯ มาโจมตีกันในเวลานี้ ในขณะที่ร้อยละ 24.7 ระบุเป็นเรื่องที่นำมาโจมตีกันได้

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ที่น่าสนใจ คือ เมื่อถามถึงความเห็นของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีสร้างผลงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน มีความเหมาะสมอย่างไร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.7 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสร้างผลงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ ในขณะที่ร้อยละ 35.3 ระบุมีคนอื่นเหมาะสมกว่า

 

 ไม่บังควร!ฝ่ายการเมืองนำปมถวายสัตย์ฯมาโจมตีกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความสุขของประชาชนที่เห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า คนไทยมีความสุขอยู่ที่ 9.12 เมื่อเห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ นอกจากนี้ เมื่อถามถึงความภูมิใจในความเป็นคนไทย สำนึกรู้คุณแผ่นดินไทยของประชาชน พบว่า คนไทยมีความภูมิใจในความเป็นคนไทย สำนึกรู้คุณแผ่นดินไทย อยู่ที่ร้อยละ 9.78 คะแนน 

 

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า โพลนี้ชี้ว่าประชาชนทั่วไปแยกแยะออกได้ว่าอะไรเป็นเรื่องการเมือง อะไรเป็นความสุขต่อความจงรักภักดีความภูมิใจในความเป็นคนไทยสำนึกรู้คุณแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม โพลนี้สะท้อนให้เห็นด้วยว่า ฝ่ายการเมืองกำลังทำในเรื่องที่ไม่บังควรถึงไม่บังควรอย่างยิ่งและไม่ตอบโจทย์ของประชาชนเพราะสิ่งสำคัญสุดในเวลานี้คือความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ รายจ่ายที่มากกว่ารายได้ 

 

“ผู้นำพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคเคยกล่าวหารัฐบาลทหารในช่วงก่อนการเลือกตั้งว่ารัฐบาลทหารไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจึงละเลยปัญหาประชาชนไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของประชาชน แต่วันนี้ประเทศของเรามีนักการเมืองที่ผ่านการเลือกตั้งเข้าสู่อำนาจในสภาฯ ตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว กลับพบแต่ข่าวเรื่องไกลตัวประชาชนที่ผู้นำพรรคการเมืองเหล่านั้นทำอยู่ เช่น การแต่งกายในสภา ความพยายามแก้รัฐธรรมนูญ และล่าสุดปมถวายสัตย์ฯ ของนายกรัฐมนตรี คำถามคือ ผู้นำพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งใส่ใจประชาชนมากกว่ารัฐบาลทหารจริงหรือ” ผศ.ดร.นพดล ระบุ

 ไม่บังควร!ฝ่ายการเมืองนำปมถวายสัตย์ฯมาโจมตีกัน