“พุทธิพงษ์” ดึง “กูเกิล-เฟสบุ๊ค&ไลน์” ร่วมเฟคนิวส์เซ็นเตอร์

21 ส.ค. 2562 | 06:57 น.

    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวภายหลังประชุมแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน เพื่อจัดตั้ง “เฟคนิวส์เซ็นเตอร์” ในวันนี้ (21 สิงหาคม 2562) ว่า ขณะนี้กระทรวงได้หารือกับ”ไลน์”อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อขอเปิด ไลน์ออฟฟิเชียล เนื่องจากในประเทศไทยมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก และ ไลน์ออฟฟิเชียล สามารถสื่อสารข้อมูลได้หลายล้านคน ส่วนเฟสบุ๊ค และ กูเกิล มีหน่วยงานป้องกันข่าวปลอมอยู่แล้ว

“พุทธิพงษ์” ดึง “กูเกิล-เฟสบุ๊ค&ไลน์” ร่วมเฟคนิวส์เซ็นเตอร์

    อย่างไรก็ตามการเปิดเฟคนิวส์เซ็นเตอร์ ผ่านช่องทางไลน์ และ เฟสบุ๊ค จัดตั้ง URL ภายในสามเดือนหรือประมาณเดือนตุลาคมได้เลยแต่คิดว่าน่าจะเร็วกว่านั้น เพราะต้องคำนึงความถูกต้องและรวดเร็ว เป็นอันดับแรก

    “เอาคนที่กระทรวง และหน่วยงานกระทรวงอื่น ยืมตัวมาเพื่อจัดตั้งให้แล้วเสร็จ และ ต้องเลือกข่าวปลอมไม่เกิน 2 ชั่วโมง เราไม่อยากสร้างศูนย์ขึ้นมาเป็นแค่เสือดระดาษ”

 

     อย่างไรก็ตามพร้อมดึงตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นคณะกรรมการสำหรับองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมฯ มีทั้งสิ้น 25 คน ซึ่งนอกเหนือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดดีอี ยังมีหน่วยงานด้านสาธารณสุข กรมประชาสัมพันธ์ สถาบันการศึกษาชั้นนำในสาขานิติศาสตร์-นิเทศศาสตร์-วารสารศาสตร์ ผู้แทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย องค์กรด้านสื่อวิทยุและโทรทัศน์ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และผู้แทนจากสมาคมจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย

    “ปัจจุบันการใช้สื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม ในการปลุกระดม       ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือ โดยมีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารไปจากข้อเท็จจริง ทำให้มีผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เด็ก เยาวชน ตลอดจนกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมอันดี และสถาบันหลักของชาติ ที่อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์                พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง”  

 

     นายพุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในวันพฤหัสหน้าตั้งคณะทำงาน 4 คณะเช่น กลุ่มการหลอกลวงทางการเงิน , กลุ่มสังคม ร่วมทั้งแผ่นดินไหว และ กลุ่มสุดท้ายมีหลักวูตรให้เรียนรู่และศึกษา เพราะในต่างประเทศบรรจุเวลาเรียนเพื่อให้ข้อมูลเด็กกับเยาวชนจำนวน 1 ชั่วโมง

      ดังนั้น การบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้มีตัวแทนเข้ามาร่วมอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ จะเป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติงานป้องกัน และการระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูล ข่าวสารอันเป็นเท็จและไม่เหมาะสม มีผลกระทบต่อสังคมและประชาชน ให้เกิดความรวดเร็วในทางปฏิบัติ ทั้งยังเสริมสร้างการตระหนักรู้เท่าทันภัยออนไลน์ให้แก่ประชาชนในวงกว้างทางด้านอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ จะครอบคลุม การวางแผนการดำเนินงานและแผนการเผยแพร่ตามขั้นตอนการพิจารณาข่าวปลอม การวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารออนไลน์อย่างรู้เท่าทันของภาครัฐ ติดตาม ตรวจสอบ ข้อมูลที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต พร้อมวิเคราะห์แนวโน้ม และบ่งชี้ข้อมูลที่เป็นข่าวปลอม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อมูล ผลิตข้อมูลที่ถูกต้อง และจัดส่งข้อมูลต่อหน่วยงานที่เป็นเจ้าของเรื่องประกอบการดำเนินการตามอำนาจ หน้าที่ รวมทั้ง ดำเนินขั้นตอนการตอบโต้ข้อมูลข่าวสารปลอม และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องต่อประชาชน และสาธารณะชน ผ่านกลไกภาคสื่อสารมวลชน เครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน                 และภาคประชาชน รายงานผลการดำเนินงานต่อ รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ รวมถึงแต่งตั้งคณะทำงานที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิบัติงานในการประสานงาน และแก้ไขปัญหาข่าวปลอม

   นอกจากนี้ในวันจันร์ที่ 26 สิงหาคม พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาตรวจเยี่ยมที่กระทรวงดีอีอีกด้วย

“พุทธิพงษ์” ดึง “กูเกิล-เฟสบุ๊ค&ไลน์” ร่วมเฟคนิวส์เซ็นเตอร์