ปรับแผน พลังงานทดแทน

จากที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีนโยบายปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานนั้น จะมีผลไปถึงแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2561-2580 (AEDP2018) ที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จะต้องดำเนินการปรับปรุงใหม่เช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับพีดีพี โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน ที่จะต้องนำไปแทรกอยู่ตามเป้าหมายของแผน AEDPว่าจะต้อง มีสัดส่วนมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ หากมาไล่เลียงของแผน AEDP ที่อยู่ระหว่างปรับรับฟังความคิดเห็นนั้น จะพบว่า มีการตั้งเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ สิ้นปี 2580 จะอยู่ที่ 12,725 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าแบบติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยหรือโซลาร์รูฟท็อป 1 หมื่นเมกะวัตต์ และโซลาร์ลอยนํ้า อีก 2,725 เมกะวัตต์ และหากรวมกับที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว ถึงปี 2580 จะมีกำลังผลิตอยู่ที่  15,574 เมกะวัตต์

ขณะที่การผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล มีแผนจะดำเนินงานถึงปี 2580 ราว 3,496 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับที่ดำเนินการแล้ว 2,290 เมกะวัตต์ เมื่อสิ้นแผนจะมีเป้าหมายอยู่ที่ 5,786 เมกะวัตต์

ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ที่กำหนดไว้เฉพาะจากนํ้าเสียหรือของเสีย จะมีกำลังผลิตใหม่อยู่ที่ 546 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับที่ดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน เมื่อสิ้นแผนปี 2580 จะมีเป้าหมายกำลังผลิตรวม 928 เมกะวัตต์

อีกทั้ง การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม กำหนดไว้ที่ 1,485 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับที่ดำเนินการแล้ว 1,504 เมกะวัตต์ สิ้นแผนจะมีเป้าหมายกำลังการผลิตที่ 2,989 เมกะวัตต์ รวมถึงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน กำหนดไว้ที่ 400 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับที่ดำเนินการแล้ว 500 เมกะวัตต์ สิ้นแผนจะมีเป้าหมายกำลังผลิตที่ 900 เมกะวัตต์ และการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาห กรรม อยู่ที่ 44 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับที่ดำเนินการแล้ว 31 เมกะวัตต์ สิ้นแผน จะมีเป้าหมายกำลังผลิตที่ 75 เมกะวัตต์ 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3498 วันที่ 22-24 สิงหาคม 2562