สแตนชารต์หั่นจีดีพีเหลือ 3%

22 ส.ค. 2562 | 05:21 น.

สงครามการค้ากดส่งออก-ลงทุน ส่งผลเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกโตต่ำ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ปรับลดจีดีพีไทยปี 62 เหลือ 3% คาดธปท.ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เดือนกันยายนนี้ หนุนการบริโภคดีขึ้น

               นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ เตอร์ดได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยลงมาที่ 3% จากคาดการณ์เดิม 3.3% เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยในครึ่งปีแรกเติบโตได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนกันยายน ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีทิศทางผ่อนคลายทั่วโลก และเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าขึ้น

สแตนชารต์หั่นจีดีพีเหลือ 3%

               “ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ส่งสัญญาณจะใช้มาตรการเพื่อดูแลเรื่องหนี้สินครัวเรือน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศ โดยยอดขายรถยนต์น่าจะได้รับผลกระทบ ประกอบกับในขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 น่าจะล่าช้าออกไปเป็นเดือนมกราคมปีหน้าจากเดิมที่น่าจะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมปีนี้ สองปัจจัยนี้อาจจะเป็นปัจจัยด้านลบต่อเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี”

นอกจากนี้ สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังคงส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกและการลงทุน ดังนั้นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงปรับลดคาดการณ์จีดีพีของไทยในปี 2563 ลงมาที่ 3.5% จากเดิม 4.0% และในปี 2564 จะอยู่ที่ 4% จากเดิม 4.5% เพื่อสะท้อนภาพปัจจัยที่ต้องจับตามอง

สแตนชารต์หั่นจีดีพีเหลือ 3%

               ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดว่าธปท.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. ในเดือนกันยายน 0.25% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลกมีทิศทางผ่อนคลายมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ดังนั้นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงได้ปรับประมาณการอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2562 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.25 จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ร้อยละ 1.50 โดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดว่า ธปท. จะคงดอกเบี้ยนโยบายในปี 2563 และ 2564

“แม้ว่าเราปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2562 แต่เรายังคาดว่าในครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท. น่าจะเป็นสัญญาณช่วยที่ดี ประกอบกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายการคลังที่น่าจะส่งผลให้เห็นภาพเศรษฐกิจดีขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 นี้ นอกจากนี้ ฐานการส่งออกและการท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับต่ำในปีก่อนน่าจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสนี้ดีขึ้น”

สแตนชารต์หั่นจีดีพีเหลือ 3%