ททท.จัดระบบรับ ‘ชิมช้อปใช้’ ชงรัฐหนุน150ล. ชูอีก3โครงการ กระตุ้นต่อมเที่ยว
ททท.เร่งพัฒนาเว็บไซต์เชื่อมระบบแบงก์กรุงไทย รับคนไทย 10 ล้านคน ลงทะเบียนรับสิทธิ 2 เด้ง ชิม ช้อป ใช้ ดีเดย์ก.ย.นี้ จ่อของบ 150 ล้านบาท ชู 3 โครงการ กระตุ้นเที่ยววันธรรมดาลดสูงสุด 70% โครงการ 100 บาทช้อปเที่ยวทั่วไทย ขอมติครม.ให้ข้าราชการ-พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเที่ยวโดยไม่นับเป็นวันลา
หลังจากครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนั้นมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านโครง การ ชิม ช้อป ใช้ ที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมระบบหลังบ้าน เพื่อให้เริ่มโครงการได้ในช่วงตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-30 พฤศจิกายนนี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในขณะนี้ททท. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเว็บไซต์ของททท. เพื่อรองรับการเข้ามาลงทะเบียนของประชาชนเป็นล้านๆ คน เพื่อมารับสิทธิตามมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิม ช้อป ใช้ ของกระทรวงการคลัง ที่รัฐบาลจะสนับสนุนเงิน 1 พันบาท ผ่านระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยภาครัฐ (g-Wallet) ให้แก่ประชาชน 10 ล้านคนแรกที่เข้ามาลงทะเบียนใช้สิทธิดังกล่าว
โดยททท.จะทำไมโครไซต์อยู่บนหน้าเว็บไซต์ของททท. รวมถึงเปิด domain name ใหม่ภายใต้ชื่อwww.ชิมช้อปใช้.com ให้คนสามารถเข้ามาลงทะเบียน เพื่อให้ง่ายแก่การประชาสัมพันธ์ เมื่อมีการลงทะเบียนเกิดขึ้นระบบก็จะลิงก์ไปยังธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” คนที่ได้รับสิทธิจะต้องเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย
เมื่อได้เงิน 1 พันบาทเข้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอพ พลิเคชันเป๋าตัง ก็ต้องนำไปใช้จ่ายข้ามจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ภายในเวลาที่กำหนด การใช้จ่ายก็จะใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ด ผ่านร้านค้าที่มีเครื่องรับชำระอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) เชื่อมกับธนาคารกรุงไทย หรือการใช้จ่ายในร้านค้า โรงแรมที่ถูกกฎหมาย โฮมสเตย์ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต่อไปในแต่ละจังหวัดจะมีการเปิดให้ร้านค้า และผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาร่วมโครงการ ซึ่งทางฝั่งร้านค้าและผู้ประกอบการจะติดตั้งแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อ รองรับการให้บริการ
“เราต้องเตรียมระบบให้มีความพร้อมในการรองรับ กันไม่ให้ระบบล่ม หรือเซิร์ฟเวอร์มีปัญหา ซึ่งททท.คาดว่าจะพร้อมเปิดให้มาลงทะเบียนได้ในวันที่ 23 กันยายน-15 พฤศจิกายนนี้ใครที่ได้รับสิทธิแล้วไม่นำไปใช้ ก็จะถูกตัดสิทธิไป ส่วนใครที่ได้รับสิทธิและมียอดใช้จ่ายเกิน 1 พันบาท ก็ยังได้รับเงินคืน (Cash Back) สูงสุด 15% ของยอดใช้จ่าย จริง แต่ไม่เกิน 4.5 พันบาท (วงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อคน)”
นายยุทธศักดิ์ยังกล่าวต่อ ว่า นอกจากมาตรการดังกล่าวของ กระทรวงการคลังแล้ว ในขณะ เดียวกัน ททท.อยู่ระหว่างผลักดัน ในอีก 3 มาตรการเพื่อเสริมเข้าไปอีก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้นำเสนอแก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอครม.ในครั้งหน้า เพื่อขอสนับสนุนงบจากรัฐบาล 150 ล้านบาท ในการดำเนินการใน 3 โครงการ
ได้แก่ 1. แพ็กเกจช็อกโลก ให้ส่วนลดสุงสุด 70% สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันธรรมดา โดยจะเน้นขับเคลื่อนการเดินทางท่องเที่ยวผ่าน 6 กลุ่มเป้าหมาย อาทิ คนสูงวัย 2. โครงการ 100 บาทช้อปเที่ยวทั่วไทย โดยจะเป็นการเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านแอพพลิเคชันเช่นกัน โดยให้สิทธิจ่ายในราคา 100 บาท สำหรับการช้อปปิ้งหรือท่องเที่ยวทั่วไทย ซึ่งจะกำหนดให้เพียง 1 หมื่นคนแรกเท่านั้น จะซื้อตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ร้านอาหาร จ่ายเพียง 100 บาท เท่านั้นกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ที่เราจะเปิดหาพันธมิตรต่อไป โครงการนี้จะ จัดเพียง 1 วันต่อเดือน ในช่วง 4 เดือน เช่น วันที่ 10 เดือน 10, วันที่ 11 เดือน 11, วันที่ 12 เดือน 12 และ 3. การขอมติครม.เพื่อให้ราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเที่ยว โดยไม่คิดว่าเป็นวันลา
สำหรับแนวคิดของนายพิพัฒน์ ในเรื่องการขยายเวลาปิดสถานบริการยามคํ่าคืนใน เมืองท่องเที่ยวจาก 02.00-04.00 น. ที่ได้มอบหมายให้ททท.เป็นผู้ศึกษาในเรื่องนี้ ทางททท.จะลงพื้นที่ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เมืองพัทยาก่อน จากนั้นจึงจะไปยังภาคต่างๆ ต่อไป ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลพอสมควร ซึ่งเกณฑ์ในการพิจารณาจะต้องเลือกเป็นบางพื้นที่ หรือบางจุด ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจริงๆ ไม่ใช่กระจายทั้งจังหวัดท่องเที่ยว เพราะต้องคำนึงถึงเยาวชนไทยด้วย
ททท.มองว่าจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กระทบต่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยเห็นชัดเจนว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 5.2 พันบาทต่อคนต่อวัน ลดลง 0.6% จากเดิมอยู่ที่ 5.4 พันบาทต่อคนต่อวัน แนวคิดในการขยายเวลาปิดสถานประกอบการยามคํ่าคืนเป็น 04.00 น. ก็น่าจะเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มเป็น 5.5 พันบาทต่อคนต่อวัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะมาใช้บริการในช่วงหลังจาก 22.00 น.ไปแล้ว นายยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3499 วันที่ 25-28 สิงหาคม 2562
