เขย่าผังทีวีดิจิทัล 15ช่องเพิ่มสปีดชิงเรตติ้งเม็ดเงิน-ผู้ชม

03 ก.ย. 2562 | 11:01 น.

ทีวีดิจิทัลเขย่าผังรับภูมิทัศน์เปลี่ยน หลังเหลือ 15 ช่อง จับตาคอนเทนต์วาไรตี ซีรีส์ดังไทย-เทศ กีฬา รายการข่าวชิงกันมันหยด เรียกทั้งเรตติ้ง ผู้ชม ขณะที่ราคาโฆษณาปรับสูงขึ้น 4%

หลังจากที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทั้ง 7 รายได้แก่ ไบรท์ ทีวี ช่อง 20, ช่องสปริงนิวส์ 19, ช่อง สปริง 26, ช่องวอยซ์ ทีวี (VOICE TV 21), MCOT Family ช่อง 14, ช่อง 3 แฟมิลี่ และช่อง 3 เอสดี ยื่นขอคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัลต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมกับทยอยยุติการออกอากาศ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อทีวีดิจิทัลปรับลดเหลือ 15 ช่องภูมิทัศน์สื่อจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

เขย่าผังทีวีดิจิทัล 15ช่องเพิ่มสปีดชิงเรตติ้งเม็ดเงิน-ผู้ชม

โดยมุมด้านบวกการคืนใบอนุญาตของ 7 ช่องจะส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล แต่ในด้านของผู้ประกอบการที่เหลืออยู่ยังคงต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่องจากรายได้โฆษณาที่ลดลง ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมารายได้จากการโฆษณาของทีวีดิจิทัลทั้ง 7 ช่อง 5 ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนเฉลี่ยตํ่ากว่า 5% ของมูลค่าโฆษณาทางทีวีทั้งหมด

รวมถึงการปรับราคาโฆษณาทีวีสูงขึ้นกว่า 4% ส่งผลให้บริษัทห้างร้านและเจ้าของผลิตภัณฑ์ชะลอการลงเม็ดเงินโฆษณาออกไป โดยนีลเส็นประเมินว่าเม็ดเงินในการโฆษณาทางทีวีในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มีการปรับลดลงราว 1% ขณะที่เอเยนซีบางรายคาดการณ์การคืนช่องครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งแน่นอน

แต่ไม่ว่าจะแสดงความคิดเห็นอย่างไร ผู้ประกอบการที่เหลืออยู่ยังต้องเดินหน้าทำธุรกิจกันต่อไป และกลยุทธ์หลักที่ผ่านมาที่ผู้ประกอบการแต่ละช่องเลือกทำนอกจากลดต้นทุนโดยการเลย์ออฟพนักงานแล้ว กลยุทธ์ต่อมาคือการปรับผังรายการในช่องใหม่ บางช่องเพิ่มคอนเทนต์เพื่อหวังรักษาฐานผู้ชมให้คงอยู่ ขณะที่บางช่องหวังเรตติ้งและผู้ชมที่เพิ่มขึ้น

เริ่มต้นที่ช่อง TNN ได้ปรับผังใหม่พร้อมตั้งเป้าขึ้นเป็นที่ 1 ช่องข่าวเศรษฐกิจทีวีดิจิทัลเน้นจุดเด่นข่าวเศรษฐกิจที่แตกต่าง ทันสถานการณ์รอบด้านทุกมุมโลก อาทิ รายการ The Conversation (JKN-CNBC) ที่มีต้นแบบมาจากรายการยอดนิยมของ CNBC โดยมีสุทธิชัย หยุ่น มาร่วมพูดคุย

“บริษัทเตรียมส่ง 7 กลุ่มคอนเทนต์รายการหลักที่เชื่อว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ TNN 16 ก้าวเป็นที่ 1 ช่องข่าวเศรษฐกิจทีวีดิจิทัล ได้แก่ ข่าวหลัก อาทิ ข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ที่มีการเพิ่มเวลาให้มากขึ้นอีก 2 เท่า EEC การเมืองโลกและสังคมโลกที่นำเสนอความเคลื่อนไหวของการเมืองโลก หรือสิ่งแวดล้อมโลก เทคโนโลยีและนวัตกรรม อาหารและสุขภาพ ฯลฯ” นายองอาจ ประภากมล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด ยังบอกอีกว่า

โดยส่วนตัวมองว่าคอนเทนต์เหล่านี้จะตอบโจทย์ผู้ชมในปัจจุบันได้แน่นอน รวมทั้งจากนี้จะนำเทคโนโลยี AIRecommendation มาวิเคราะห์ข้อมูลการรับชม เพื่อออกแบบคอนเทนต์ให้ตรงใจและตอบโจทย์ผู้ชมยุคดิจิทัล

เขย่าผังทีวีดิจิทัล 15ช่องเพิ่มสปีดชิงเรตติ้งเม็ดเงิน-ผู้ชม

ขณะที่ช่องหลักอย่าง ช่อง 7HD ทยอยปล่อยคอนเทนต์แม่เหล็กอย่างซีรีส์ และรายการวาไรตีดังลงจอ อาทิ The Next Iron Chef ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก รายการทำอาหารระดับโลกทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. รายการสู้เพื่อฝัน (Battle Of Dreams) และซีรีส์เกาหลี วิมานวาดฝัน ที่ทำเรตติ้งทั่วประเทศในเกาหลีทะลุ 23% เพื่อหวังรักษาฐานผู้ชมให้คงอยู่

ฟากช่อง 9 MCOT HD ที่สร้างความประหลาดใจพลิกฟื้นธุรกิจทำกำไรได้ในช่วงไตรมาส 2 กว่า 287 ล้านบาท ก็มีการปรับผังครั้งใหม่เช่นกัน โดยครั้งนี้ชูภาพความเป็น Sport Entertainment ด้วยผังรายการกีฬา 5 วันรวด ส่วนคอนเทนต์เข้มข้นก็ได้ 2 พิธีกร “หมาแก่-แมวสาว” จากเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand มาร่วมเสริมแกร่ง โดยนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) บอกว่า วันนี้คอนเทนต์ของ อสมท เป็นรายการบันเทิง 39% ข่าวและรายงานสถานการณ์ 37% สาระและความรู้ 8% กีฬา 8% และสาระบันเทิง 8% โดยเป็นรายการที่ผลิตเอง 64% sharing 14% และเช่าเวลา 22% ซึ่งผังรายการใหม่นี้เริ่มตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

“รายการเด่นคือการถ่ายทอดสดรายการมวยไทยระดับพรีเมียม แม็กซ์ มวยไทย ซึ่งเป็นสปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ดีที่สุดรายการหนึ่งของเอเชีย จะออกอากาศต่อเนื่อง 5 วันเต็ม อีกรายการคือ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ที่มี 2 พิธีกร “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์และอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์” มานำเสนอความเคลื่อนไหวในทุกๆ เช้า เริ่มออกอากาศต้นกันยายนนี้ นอกจากนี้ยังมีเรียลลิตี ซีรีส์ ทั้งไทย จีน อังกฤษ ที่จะมานำเสนอครั้งแรกในประเทศไทยด้วย

 

มาอีกฟากฝั่งถนนสุขุมวิทอย่างช่องวัน 31 และจีเอ็มเอ็ม25 ที่ให้ความสำคัญกับรายการวาไรตี และละครในช่วงเวลาไพรม์ ไทม์เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่อง ใบไม้ที่ปลิดปลิว ที่เป็นกระแส ทอล์กออฟเดอะทาวน์และเรตติ้งพุ่งกระฉูด

โดยนายสถาพร พานิชรักษาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด ผู้บริหารช่อง GMM 25 กล่าวถึงการปรับผังรายการครั้งใหม่ว่า หลังจากที่ปรับผังรายการไปเมื่อเดือนพฤษภาคม พบว่ามีเรตติ้งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนดูใหม่ ที่เป็นภาคอีสานและภาคกลาง ในช่วงไพรม์ไทม์ และรายการโดยรวม สำหรับในครึ่งปีหลังนี้จะเน้นขยายฐานคนดูในทุกแพลตฟอร์ม จึงนำเสนอคอนเทนต์ที่แตกต่างตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น

เขย่าผังทีวีดิจิทัล 15ช่องเพิ่มสปีดชิงเรตติ้งเม็ดเงิน-ผู้ชม

ไม่ว่าจะเป็นรายการลูกทุ่ง สู้ฟัด เดอะ แชมเปี้ยน และลูกทุ่ง สู้ฟัด สเปเชียล รวมถึงจัดบิ๊กอีเวนต์ “คอนเสิร์ตลูกทุ่งสู้ฟัด” ขณะที่ช่วงไพรม์ไทม์ จะมีละครแซบครบรส อาทิ “ปลาร้าทรงเครื่อง” ละครคอมมิดี้-ดราม่า ในวันพุธ-พฤหัสฯ, “แรงเทียน” ละครดราม่าในวันจันทร์-อังคาร และยังมีคอนเทนต์กีฬา “มวยดี วิถีไทย” ที่จะมาเพิ่มกลุ่มผู้ชายด้วย

ขณะที่ช่องอาร์เอส แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะให้ความสำคัญละมุ่งเน้นกับการทำธุรกิจในกลุ่ม MPC มากขึ้น แต่ในด้านธุรกิจช่องทีวีอาร์เอสก็ยังไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับคอนเทนต์เนื่องจาก อาร์เอสเชื่อว่าหากไม่มีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพในช่องก็ยากที่จะต่อยอดธุรกิจ MPC ได้ ดังนั้นในไตรมาส 3 อาร์เอสจึงเตรียมส่งละคร 2 เรื่องอย่าง มณีนาคา และเทพธิดาขนนกเพื่อหวังดึงเรตติ้งและเพิ่มฐานผู้ชมให้มากขึ้น 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3500 ระหว่างวันที่ 29 - 31 สิงหาคม 2562