‘สุนันท์’ เบรกม็อบยาง!! ยันได้ทุกคนที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท.
ปิดฉากเรียบร้อย!ประกันรายได้ชาวสวนยาง 60 บาท/กิโลกรัม บิ๊ก กยท.เผยรัฐใจปล้ำแจกทุกคนที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ทั้ง "บัตรเขียว/ชมพู" จ่ายคนสวน/คนกรีดยาง อัตราส่วน 60:40 เตรียมชงเข้าบอร์ดเห็นชอบในเร็วๆ นี้
จากการที่มีกลุ่มแกนนำชาวสวนใต้ออกมาเรียกร้องเพื่อให้กลุ่มบัตรสีชมพูที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)เพื่อให้มีส่วนร่วมในโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา กิโลกรัมละ 60 บาทด้วย โดยจะมีการนัดรวมตัวกดดันเรียกร้อง 2 จุด ได้แก่ ที่ “ควนหนองหงส์ - ถ้ำพรรณรา” ในสัปดาห์หน้า
นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยด้านบริหาร รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โทรสายตรงเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)ได้จัดทำนโยบาย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ราคายางพาราตกต่า อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปทานยางของประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติที่เริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจนเกิดอุปทานส่วนเกิน ประกอบกับยางมีปัญหาเชิงโครงสร้างการผลิต กล่าวคือยางเป็นพืชที่พึ่งพาการส่งออก โดยผลผลิตส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 87 ส่งออกไปยังผู้ใช้ยางในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ยางรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นประเทศผู้นาเข้ายางพารารายใหญ่ของไทย
ปัจจุบันประเทศจีนกาลังประสบกับปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และสงครามทางการค้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา โดยราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี ตลาดกลางยางพาราสงขลา ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี ในปี 2561 เท่ากับ 41.83 บาท/กิโลกรัม และราคาได้ลดลงจากปี 2560 ซึ่งมีราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี เท่ากับ 53.63 บาท/กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 28.65 ดังนั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรกรชาวสวนยางอย่างเร่งด่วน รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรมักจะทาได้ยากและ ใช้ระยะเวลายาวนาน ในปัจจุบันแนวทางการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรโดยการใช้มาตรการช่วยเหลือทางตรง เช่น การแทรกแซงราคา การพยุงราคา ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก เนื่องจากวิธีการดังกล่าวทาให้กลไกตลาดถูกบิดเบือนและได้ผลในระยะสั้นเท่านั้น และอาจไม่สอดคล้องข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO)
“หลักเกณฑ์และข้อกำหนดของโครงการ เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย ก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2562 โดยเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ กำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ (ยางแห้ง) 240 กก./ไร่/ปี หรือ 20 กก./ไร่/เดือน กำหนดระยะเวลาประกันรายได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน (เดือนตุลาคม 2562 – เดือนมีนาคม 2563) จะได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น "บัตรสีเขียว" หรือ "สีชมพู" เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในเร็วๆนี้จะนำเข้าสู่บอร์ด ที่มีปลัดเกษตรฯ เป็นประธานเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป”
สำหรับราคายางที่ประกันรายได้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60.00 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57บาท/กิโลกรัม ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 25 บาท/กิโลกรัม และราคากลางอ้างอิงการขาย หมายถึง ราคาที่คณะกรรมการกาหนดราคากลางอ้างอิง ประกาศทุก 2 เดือน (บาท/กิโลกรัม) ปริมาณผลผลิตยางตามเนื้อที่กรีดยาง หมายถึง ผลผลิตยาง จานวน 20 (ผลผลิตยางแห้ง/ไร่/เดือน) X จานวนไร่ (รายละไม่เกิน 25 ไร่) แบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของสวนร้อยละ 60 และ คนกรีดร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด