มาแล้ว! นักเรียน-นักศึกษาฮ่องกงนับหมื่นแสดงพลังร่วมสมทบผู้ชุมนุม

02 ก.ย. 2562 | 08:36 น.

เด็กนักเรียน-นักศึกษาจำนวนไม่ต่ำกว่า 10,000 คนจากโรงเรียนทั้งรัฐบาลและเอกชนประมาณ 200 แห่งทั่วฮ่องกง นัดหยุดเรียนในวันนี้ (2 ก.ย. 2562) แม้ว่าจะเป็นวันเปิดเรียนวันแรกเพื่อร่วมแสดงพลังชุมนุมประท้วงรัฐบาล โดยการเคลื่อนไหวของเหล่าเยาวชนวัยเรียนนี้ เกิดขึ้นหลังจากนายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชื่อดัง อายุ 22 ปี เรียกร้องให้นักเรียนและนักศึกษาทั่วฮ่องกงหยุดเรียนมาประท้วงเพื่อรักษากระแสให้ไม่ซาลง หลังจากตำรวจฮ่องกงเริ่มปราบปรามผู้ชุมนุมด้วยวิธีการที่รุนแรงขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงพ่นน้ำอัดใส่ผู้ชุมนุม และการใช้ปืนยิงกระสุนจริงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ผู้ชุมนุม เป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  

มาด้วยใจ น้องๆนักเรียนโดดเรียนมาทั้งชุดเครื่องแบบกันเลฃยทีเดียว

 

เตรียมมาพร้อม!!

สื่อต่างประเทศรายงานว่า เด็กนักเรียน-นักศึกษาในชุดเครื่องแบบร่วมใจกันโดดเรียนวันแรกมาร่วมกิจกรรมการชุมนุมซึ่งย่างเข้าสัปดาห์ที่ 13 แล้วหลังจากที่ครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนเพื่อคัดค้านการพิจารณากฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ แต่หลังจากนั้นก็ลุกลามกลายเป็นการชุมนุมเรียกร้องเสรีภาพและท้าทายอำนาจรัฐบาล  เด็กนักเรียนหลายคนเตรียมตัวมาพร้อมด้วยหน้ากากอนามัยบ้าง หน้ากากกันแก๊สน้ำตาบ้าง และหลายคนก็เตรียมร่มและเสื้อกันฝนมาซึ่งไม่เพียงใช้กันฝนจากอิทธิพลพายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ แต่ยังช่วยกันน้ำเจือสีจากปืนน้ำแรงดันสูงของตำรวจปราบจลาจลได้ด้วย

 

ทางด้านรัฐบาลฮ่องกงได้ประณามการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากผู้ชุมนุมบางส่วนทำลายทรัพย์สินสาธารณะในสนามบินนานาชาติฮ่องกง และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหลายจุด

 

นอกจากนี้ ยังระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งศาล และขัดขวางการทำงานภายในสนามบินโดยไม่เคารพกฎหมาย จนส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากและบั่นทอนเศรษฐกิจของฮ่องกง ขณะเดียวกันผู้กำกับการสถานีตำรวจในเกาลูน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ชุมนุมจำนวน 71 คน ซึ่งอายุต่ำสุดในจำนวนนี้คือ 13 ปีเท่านั้น ส่วนใหญ่ถูกจับกุมในข้อหาชุมนุมกันอย่างผิดกฎหมาย ครอบครองระเบิด และอาวุธร้ายแรง หลังจากผู้ชุมนุมขว้างปาระเบิดเพลิงและอิฐใส่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งจุดไฟเผาเครื่องกีดขวางที่ตำรวจนำมาวางเป็นแนวกั้นตามจุดต่างๆ จนสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา