คริปโตฯแข่งดุ หวั่นซํ้ารอยBX BITKUB ส้มหล่น
ธุรกิจคริปโตฯแข่งดุ เชื่อกระแสปิดตัวเพิ่มมีอีก เหตุลูกค้าเลือกใช้ตลาดเดียว ขณะที่ยังมีรายใหม่ยื่นขอไลเซนส์ต่อเนื่อง BITKUB รับอานิสงส์หลัง “บจก. บิทคอยน์” เลิกกิจการ ยอดโอนทะลักวันแรกกว่า 2 หมื่นบัญชี ดันโวลุ่มพุ่ง 1,000% ด้านก.ล.ต.ยันเดินหน้าใช้เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาตลาดทุนไทย
จากการที่บริษัทบิทคอยน์ จำกัด (บจก.) หรือ BX ซึ่งดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 5 ปี ประกาศยุติบทบาทการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ระบุว่าเนื่องจาก บริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในทางอื่นๆ แทนการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) ดังนั้นภายหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2562 ลูกค้าจะไม่สามารถทำการซื้อขายแลกเปลี่ยน (เทรดดิ้ง) ผ่าน เว็บไซต์ BX.in.th ได้อีกต่อไปเนื่องจากบริษัทไม่มีความประสงค์จะต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2563 อีกต่อไป
ต่อเรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจงว่าก.ล.ต.มีนโยบายที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาเป็น digital infrastructure ของตลาดทุนไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งยังส่งผลดีต่อผู้ลงทุน และประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการด้วยต้นทุนที่ลดลง แม้ว่าล่าสุด BX ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่จะยุติบทบาทการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลก็ตาม
ส่วนผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ก.ล.ต. ระบุว่า ณ ขณะนี้ยังเป็นเรื่องเฉพาะบริษัท และ BX ยังไม่ได้ปิดการให้บริการในทันที ดังนั้นจึงต้องใช้ระยะเวลาในการติดตามผลกระทบ อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. จะวิเคราะห์เรื่องนี้เปรียบเทียบกับพัฒนาการของตลาด
ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Exchange ทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ บจก. บิทคอยน์ (BX), บจก.บิทคับ ออนไลน์ (BITKUB),บจก.สตางค์ คอร์ปอเรชั่น (Satang Pro) อยู่ระหว่างรอ activate 1 ราย และมี 2 รายยื่นคำขอเป็นผู้ประกอบการ Exchange
ด้านนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หนึ่งในผู้ก่อตั้ง BITKUB และGroup CEO ของ Bitkub Capital Group Holdings Co.,Ltd.เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแข่งขันสูงมาก บริษัทที่จะอยู่รอดในวงการนี้ต้องมีผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีจริงๆ เพราะสุดท้ายคนก็ไปใช้แค่ตลาดเดียวเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ขณะที่รายใหม่ยังยื่นเข้ามาอีก3 ราย ท้ายสุดก็อาจต้องถอย แต่การเลิกกิจการไม่ได้ส่งผลมาก ไม่ต่างกับร้านทองที่ปิดตัว เพราะบิตคอยน์สำหรับไทย ถือว่าเล็กมาก ไม่มีผลต่อราคาบิตคอยน์โลก จะเห็นว่าราคาร่วงเฉพาะตลาด BX แต่ไม่นานก็กลับมาซื้อขายที่ราคาตลาดโลกอยู่ดี
อย่างไรก็ดีการที่ BX เลิกประกอบธุรกิจ กลับเป็นอานิสงส์ให้บริษัท เพราะวันเดียว (2 กันยายน 2562) มีลูกค้าโอนย้ายมาBITKUB มากกว่า 2 หมื่นบัญชี จากปัจจุบันที่บริษัทมีประมาณ 1 แสนบัญชี โดยนับตั้งแต่บริษัทเปิดให้บริการมีโวลุ่มซื้อขายรวม 8 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อวัน 30-50 ล้านบาท และเติบโตกว่า 100% ต่อเดือนตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ คาดว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึงปลายปีนี้ จะเป็นตัวเร่งให้ BITKUB เติบโตมากกว่า 1,000% มีปริมาณธุรกิจต่อวัน 150-200 ล้านบาท
ปัจจุบันเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซี BITKUB มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 มีผลิตภัณฑ์เหรียญที่ใช้เทรดมากสุดถึง 29 เหรียญและเป็นเจ้าแรกที่ทำการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแอพพลิเคชันมือถือ ทั้งยังได้ร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัสฯ ให้ลูกค้าสามารถซื้อขายผ่านโบรกฯ ได้ และอนาคตจะขยายเพิ่มไปยังโบรกอื่น ๆอีกด้วย
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,502 วันที่ 5-7 กันยายน 2562
