ผ่ามิสชันใหม่ ผู้นำ ‘ซัมซุง’ ปรับมุมคิด ขยายภาพธุรกิจ 

ตลอดระยะเวลา 11 ปี ในสังเวียนธุรกิจโทรคมนาคมและไอทีภายใต้แบรนด์ ซัมซุง “วิชัย พรพระตั้ง” ยอมรับว่า เป็นงานที่ท้าทายและสนุกสนาน จนถึงปัจจุบัน เขาก็ยังสนุกกับการทำงานที่นี่ เพียงแต่วันนี้ เขาต้องการเห็นภาพของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น และทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืนมั่นคง ที่นอกจากภาคของธุรกิจแล้ว ภาคของสังคมก็คืออีกส่วนสำคัญที่ผู้บริหารอย่างเขาอยากเห็น และอยากที่จะเป็นคนสร้าง ในวันนี้ เขาจึงขยับขึ้นมารับตำแหน่งเป็น “รองประธานที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์องค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด” ตั้งแต่ต้นปี 2562

ก่อนที่จะเข้าสู่แวดวงธุรกิจโทรคมนาคมและไอที ผู้บริหารท่านนี้ ผ่านงานบริหารมาจากองค์กรใหญ่ข้ามชาติ ทั้ง พีแอนด์จี ไมเนอร์ฟู้ดส์ และเทสโก้ โลตัส และได้เข้าร่วมงานกับบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ตั้งแต่ปี 2551

จากความเป็นผู้นำที่มีความสามารถอันโดดเด่น ประกอบกับความเฉียบแหลมในการดำเนินธุรกิจจนสามารถพิชิตทุกสมรภูมิการแข่งขัน ของตลาดสมาร์ทดีไวซ์อันร้อนแรง เขาจึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองประธาน ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที ไทยซัมซุงในปี 2555 โดยตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ดำรงตำแหน่ง เขาสามารถนำพาให้ธุรกิจสมาร์ทโฟน สมาร์ทแท็บเลต รวมทั้งสมาร์ทดีไวซ์รุ่นต่างๆ ของซัมซุง ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำทั้งในด้านความนิยม และยอดขาย จนปี 2557 เขาได้รับการแต่งตัั้งอีกครั้ง ในตำแหน่งรองประธาน องค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที

“ผมอยู่ซัมซุงมา 11 ปี ผมทำทั้งทีวี มือถือ คอร์ปอเรตมาร์เก็ตติ้ง ทำกล้อง ทำหลายโปรดักต์มาก ตอนนี้ผมอยากเห็นภาพที่ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ อยากเห็นภาพรวม การบริหารตลาดมือถือก็ยังทำได้ ยังสนุก แต่เราอยากจะถอยให้คนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาธุรกิจต่อไป โดยส่วนตัวก็ยังเป็นเมนทอร์ให้กับผู้บริหารใหม่อยู่”

การถอยของผู้บริหารท่านนี้ คือการขยับออกมาดูภาพของกลยุทธ์ภาพรวมขององค์กร รวมทั้งการบริหารงานเพื่อสังคม โดยให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนของธุรกิจ องค์กร และสังคมไปพร้อมๆ กัน โดย “วิชัย” เริ่มถอยออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเริ่มสร้างทีม สร้างคนรุ่นใหม่ ที่จะขึ้นมาช่วยกันสร้างเรื่องความยั่งยืนเป็นสำคัญ และอีกส่วนหนึ่งของการขยับตำแหน่งหน้าที่ในครั้งนี้ ก็คือ การเติบโตตาม Career Path ขององค์กร

ผู้บริหารท่านนี้ บอกว่า การดูเรื่องกลยุทธ์ภาพรวมขององค์กร ก็ต้องมาดู มาคุยกัน ว่าจะไปอย่างไรต่อ ซึ่งโทรศัพท์มือถือไม่ใช่แค่ดีไวซ์ ที่ทำหน้าที่แค่โทรเข้าโทรออกเพียงอย่างเดียว วิวัฒนาการของมือถือ ก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งใน ดิจิทัล ดีไวซ์ ที่จะไปต่อยอดอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันมือถือที่พัฒนามาสู่สมาร์ทโฟน สามารถทำงานได้หลากหลาย ทั้งการเป็นกระเป๋าเงิน เป็นซีเคียวริตี เป็นทุกอย่าง

เมื่อนำศักยภาพและนวัตกรรมของมือถือ มาผนวกกับการเคลื่อนตัวของบิสิเนสแพลตฟอร์ม ที่มีเป้าหมายสู่ความยั่งยืน ซึ่งเดินตามพันธกิจของซัมซุง กับการพัฒนานวัตกรรมที่ต้องทำให้ชีวิตของมนุษย์ดีขึ้น การพัฒนาต่อไปของมือถือ รวมไปถึงธุรกิจในภาพรวม จึงต้องสร้างอะไรต่างๆ ในระยะยาว เพราะอย่าลืมว่า นอกจากมือถือยังมีดีไวซ์อื่นๆ ที่เข้ามาในชีวิตของคนเราอีกมากมาย ซึ่งซัมซุงมีโปรดักต์อีกเยอะมาก ตอนนี้ก็รอเวลาว่า โปรดักต์เหล่านั้นจะเข้ามามีบทบาททางการตลาดเมื่อไร โดยทิศทางของธุรกิจจะกลายเป็นเรื่องของ IoT (Internet of Thing) มากขึ้น เพราะฉะนั้นในฐานะผู้นำ “วิชัย” บอกว่า เขาจึงต้องถอยออกมาดูว่า จะทำอะไรต่อ

ส่วนจะเกิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นอีกในอนาคต เขาบอกว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ พูดอะไรไม่ได้เยอะ แต่สิ่งที่จะพัฒนาต่อไปนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ซัมซุง แต่ทุกๆ บริษัท ก็จะต้องคิดและพัฒนาอะไรที่กว้างขึ้นไปอีก จากธุรกิจที่ทำอยู่ปัจจุบัน

ส่วนงานด้านสังคม ซึ่งถือว่า “วิชัย” เข้ามาลุยเต็มตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เขาบอกว่า ถือเป็นการระเบิดมุมมองใหม่ๆ การได้ร่วมงานกับผู้ประกอบการในท้องถิ่น และทีมอาสาสมัครจาก ซัมซุง เกาหลีใต้ ที่เข้ามาช่วยทำโปรเจ็กต์ “Hack Culture: กระเทาะเปลือกวัฒนธรรม: การแก้ปัญหาด้วยสื่อดิจิทัล เพื่อเสริมศักยภาพสตรีและรักษาหัตถกรรมท้องถิ่น” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Samsung OneWeek ที่ซัมซุงทำงานร่วมกับองค์กรยูเนสโก ช่วยส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถของผู้หญิงชนเผ่าม้ง สร้างโซลูชันในการต่อยอดและรักษาวัฒนธรรมและหัตถกรรมพื้นบ้าน ให้สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจและบริการ ที่จะสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนทั้งแง่รายได้และวัฒนธรรม

โปรเจ็กต์นี้ถือเป็นโมเดลตั้งต้นที่ “วิชัย” เตรียมที่จะนำไปผลักดันและต่อยอดสร้างให้เป็นธุรกิจกับครอบครัวชาวม้งให้ได้จริงๆ โดยสร้างเป็นโปรโตไทพ์ซึ่งทางซัมซุง เกาหลีใต้ ได้สนับสนุนเงินให้อีก 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่องานหนึ่งโปรโตไทพ์ พอได้มาพูดคุยกับผู้ประกอบการท้องถิ่น ทำให้เราได้ระเบิดความคิดได้อีกมหาศาล...แพลตฟอร์มแบบนี้ยังทำอะไรได้อีกเยอะ และพอเราได้เข้ามาทำอะไรดีๆ แบบนี้ เราก็แฮปปี้

“วิชัย” ทิ้งท้ายว่า งานบริหารธุรกิจก็ยังเป็นอะไรที่สนุก แต่การออกมางานด้านสังคม การได้พบปะคนที่หลากหลายมากขึ้น คือการเปิดมุมมองใหม่ๆ แน่นอนว่า ภาคธุรกิจ การทำกำไร การสร้างผลประกอบการที่ดี ยังเป็นหลักที่สำคัญ เพียงแต่ว่า ตอนนี้ทุกอย่างคือการนำมาคิดต่อยอดประมวลผล คิดอะไรที่มันใหญ่ ขึ้นกว่าเดิม...นี่คืออีกหนึ่งก้าวใหม่ ของผู้นำซัมซุงท่านนี้   

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,502 วันที่ 5 - 7 กันยายน พ.ศ. 2562