เตรียมเสนอครม. เพิ่มร้านค้าร่วม“ชิมช้อปใช้”
คลังเตรียมเสนอครม.เพิ่มร้ายค้าร่วม “ชิมช้อปใช้” ตอบโจทย์เที่ยวครบวงจร เดินหน้าทำงานเชิงรุก หลังผู้ประกอบการลงทะเบียนเพียง 3,300 ราย จากร้านค้าเป้าหมาย 40,000 ราย
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า สศค.จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในสัปดาห์หน้า เพื่อเพิ่มร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ”ชิมช้อปใช้” ให้ครอบคลุมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ครบวงจรมากขึ้น เช่น ธุรกิจสปา เช่ารถ เรือ และนำเที่ยว แต่ต้องลงทะเบียนกับกรมบัญชีกลางและได้รับติดตั้งแอพพลิเคชั่นถุงเงินก่อนนอกเหนือจากที่ขออนุมัติจากครม.ไปแล้วคือ ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม โฮมสเตย์ วิสาหกิจชุมชนและร้าน OTOP
สำหรับการลงทะเบียนร้านค้าที่เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม เฉลี่ยมีผู้ประกอบการลงทะเบียนวันละ 500 ราย ซึ่งยังคิดว่าไปได้ โดยมียอดลงทะเบียนรวม 3,300 รายจากรายชื่อร้านค้าเป้าหมายที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง 40,000 รายคือ ร้านอาหารที่มีเลขทะเบียนพาณิชย์ 14,000 ราย ร้านอาหารขนาดเล็กในพื้นที่อีก 10,000 ราย ร้าน OTOP/วิสาหกิจชุมชน/ 6,000 รายและโรงแรมและโฮมสเตย์ 10,000 ราย
“จากนี้ไปกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางจะปรับกลยุทธ์การทำงานเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมที่ผู้ประกอบการต้องมาสมัครที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดหรือจุดรับลงทะเบียนอื่น แต่จะเป็นการลงพื้นที่ เพื่อเข้าหาผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเอง เพื่ออำนวยความสะดวก รวมถึงร้านอาหาร เด็ดๆดังในแต่ละจังหวัด จะพยายามติดตั้งแอลพลิเคชั่นให้ครบเพื่อให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการได้รับสิทธิ์คืนเงินจากรัฐด้วย”
ส่วนจะพิจารณาขยายระยะเวลารับสมัครออกไปจากที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 กันยายนหรือไม่ นายลวรณกล่าวว่า จะพิจารณาจากจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมมาตรการ ซึ่งยังมีเวลาอีก2 สัปดาห์ที่จะตัดสินใจ ขณะเดียวกันมาตรการมีไปจนถึงสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน ในระหว่างนั้นก็สามารถเปิดรับลงทะเบียนเพิ่มเติมได้
