จบไม่ง่าย! จับ7สัญญาณม๊อบฮ่องกงยังไปต่อ

05 ก.ย. 2562 | 01:57 น.
  • "แคร์รี่ หล่ำ" ประกาศยอมถอนร่างกฏหมาย แต่ "โจซัว หว่อง" บอกสายและน้อยเกินไป
  • เป็นไปได้ว่าความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เพียงจะทำให้สถานการณ์เย็นลงเท่านั้น 

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

1.สิ่งที่ “แคร์รี่ หล่ำ” ประกาศ เป็นเพียงแค่ 1 ใน 5 ข้อเรียกร้อง  และยังจะดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้ความรุนแรง

  • ถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างสิ้นเชิง
  • ไม่ดำเนินคดีกับผู้ประท้วง      
  • ยกเลิกการระบุว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการจลาจล      
  • ตั้งคณะกรรรมาธิการพิเศษไต่สวนการกระทำรุนแรงของตำรวจ
  • เริ่มกระบวนการปฏิรูปการเลือกตั้ง

2.ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “แคร์รี่ หล่ำ” ประกาศระงับร่างกฏหมายฉบับนี้  ก่อนหน้านี้ 15 มิถุนายน เธอเคยประกาศไปแล้วว่า รัฐบาลตัดสินใจระงับการพิจารณาร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว บอกว่าร่างกฎหมายนี้ ‘ตายแล้ว’ แต่ในวันรุ่งขึ้น ชาวฮ่องกง 2 ล้านคนก็ยังคงออกมาชุมนุม เพราะไม่มีอะไรรับรองได้ว่ากฏหมายจะไม่ถูกนำมาพิจารณาใหม่  ซึ่งการถอนร่างกฎหมายนี้จะมีขึ้นเมื่อมีการเปิดประชุมสภานิติบัญญัติอีกครั้งในเดือนตุลาคม

3.“โจซัว หว่อง” ไม่คิดว่าเป็นความจริงใจ  เขาทวีตข้อความที่กล่าวถึงความสูญเสียมีผู้เสียชีวิต 7 คน อีก1,200 คนถูกจับ เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง ทิ้งบาดแผลที่ยากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

4.การใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมตลอดหลายเดือน แก๊สน้ำตา ฉีดน้ำแรงดันสูง การใส่สีที่ล้างไม่ออกผสมในน้ำ พ่นสเปรย์พริก และยิงปืนกระสุนจริง ก่อนที่จะมีการจับกุม 3 นักเคลื่อนไหวระดับแกนนำหนึ่งในนั้นคือ “โจซัว หว่อง” เมื่อ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา

5.การตัดสินใจอยู่ที่จีน ไม่ใช่ “แคร์รี่ หล่ำ” ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า เธอได้ส่งรายงานข้อเสนอและการประเมินหากทำตามข้อเรียกร้อง 5 ข้อของผู้ชุมนุมเพื่อคลี่คลายวิกฤติที่เกิดขึ้นในฮ่องกง แต่ถูกปฎิเสธ  แหล่งข่าวกล่าวว่า “รัฐบาลปักกิ่ง ปฏิเสธข้อเสนอของนางแคร์รี่ที่จะถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนและยังสั่งไม่ให้ยินยอมทำตามข้อเรียกร้องจากกลุ่มผู้ประท้วง ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม”

6.กองทัพจีนยังปักหลักอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ตั้งแต่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา กองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน รถต่างๆกว่า 500 คันทั้งรถหุ้มเกราะรถ รถลำเลียงพล รถฉีดน้ำแรงดันสูง ประจำการอยู่ที่สนามกีฬาในเมืองเสิ่นเจิ้น ห่างสนามบินฮ่องกง 56     กิโลเมตร ผู้นำกองทัพทั่บผิดชอบเคยประกาศสามารถเข้าฮ่องกงได้ภายใน 10 นาที  

7.20 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางการจีนประกาศพัฒนาเมือง “เซินเจิ้น” เป็นพื้นที่นำร่องตามแนวทางสังคมนิยมแบบจีน เพื่อเป็น “ศูนย์กลางทางการเงินนานาชาติแห่งใหม่” แทนที่ “ฮ่องกง”  พิจารณาจากศัยภาพไม่ใช่เรื่องยากเพราะที่ผ่านมา เซินเจิ้นมีอัตราการเติบโตที่ 7.5% แซงหน้าฮ่องกงที่เติบโต 3% ในปี 2018