เร่งตรวจสอบ ร้านดิวตี้ฟรี หวั่นรายได้รั่วไหล

05 ก.ย. 2562 | 07:31 น.

รมช.คลัง สั่งกรมศุลกากร ปิดช่องโหว่ รายได้รั่วไหลจากร้านดิวตี้ฟรี พร้อมเร่งติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์คร่อมสายพายที่สุวรรณภูมิให้เสร็จในสิ้นปีนี้ สแกนพ่อค้าพรีออเดอร์ออนไลน์ แอบหิ้วไม่จ่ายภาษี โดนทุกรายแน่

เร่งตรวจสอบ ร้านดิวตี้ฟรี หวั่นรายได้รั่วไหล

               นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมศุลกากรไปเร่งตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี หรือ ดิวตี้ ฟรี ที่ปัจจุบันมีจำหน่ายในหลายพื้นที่  เพื่อป้องกันการรั่วไหลของการจัดเก็บรายได้ภาษีจากสินค้าดังกล่าว โดยให้เข้าไปดูระบบและเชื่อมโยงข้อมูลการจำหน่ายสินค้า เพื่อควบคุมและดูสต็อกสินค้าว่าสมดุลกันหรือไม่ เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มประสิทธิภาพ โดยกรมศุลกากรจะต้องตรวจสอบการจำหน่ายและการนำเข้าให้ละเอียดและเข้มข้นมากขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลสูงสุด

เร่งตรวจสอบ ร้านดิวตี้ฟรี หวั่นรายได้รั่วไหล

               “ปัจจุบันประเทศไทยมีร้านค้าปลอดภาษีทั้งในสนามบิน และในตัวเมือง ซึ่งข้อดีก็คือเป็นการช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว แต่ปัญหาการลักลอบก็มีอยู่ ซึ่งกรมศุลฯ ก็ต้องตรวจดูป้องกันการรั่วไหลด้วย  ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กรมศุลกากร เร่งติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์คร่อมสายพายที่สนามบินสุวรรณภูมิให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าออนไลน์ที่นำเข้ามาในไทย รวมถึงการลับลอบขนสินค้าเกษตรเข้ามาจำหน่ายต่อในประเทศด้วยนายสันติ กล่าว

ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมศุลกากรเร่งเชื่อมต่อระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลการนำเข้าส่งออกสินค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ National Single Window ทั้ง 37 หน่วยงานในประเทศ และ 10 ชาติสมาชิกอาเซียนให้แล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ รวมถึงให้มีการใช้เทคโนโลยีการตรวจสินค้านำเข้าให้เข้มข้นมากขึ้น เช่น เครื่องเอ็กซเรย์ เพื่อป้องกันการลับลอบการนำเข้าที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาทิ หัวหอม กระเทียม ข้าวเหนียว และน้ำมันปาล์ม รวมถึงสินค้าที่นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ด้วย

เร่งตรวจสอบ ร้านดิวตี้ฟรี หวั่นรายได้รั่วไหล

ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ได้มีการตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าร้านค้าปลอดภาษีอยู่แล้ว หากผู้ซื้อนำไปใช้ยังต่างประเทศ ก็ห้ามนำเข้ามาใช้ในไทย ขณะเดียวกันกำลังเร่งเปิดการใช้งานเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงกระเป๋าเดินทางที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  23 เครื่อง ให้เสร็จและเริ่มใช้ได้วันที่ 1 ม.ค.2563 โดยเครื่องดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสแกนกระเป๋าเดินทางที่โหลดมาใต้ท้องเครื่องบินได้ทุกใบ เพื่อดูว่ามีสินค้าต้องห้ามการนำเข้าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ยาเสพติด รวมถึงสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาสูงและเข้าข่ายเสียต้องภาษีด้วย

เร่งตรวจสอบ ร้านดิวตี้ฟรี หวั่นรายได้รั่วไหล

               “การใช้งานของเครื่องเอ็กซเรย์นี้จะช่วยสแกนกระเป๋าได้ทุกใบ และหากสแกนแล้วพบกระเป๋าเดินทางใบไหนมีความน่าสงสัยก็จะทำสัญลักษณ์ไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณช่องสำแดง และหากพบกระทำผิดก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งการทำลักษณะนี้จะช่วยแก้ปัญหาธุรกิจพรี ออร์เดอร์ออนไลน์ หรือรับหิ้วสินค้าที่เลี่ยงภาษีมาขายในประเทศได้ แต่หากเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มีการซื้อของมาใช้ปกติและมีมูลค่าไม่เกินกำหนดก็ไม่ต้องกังวลอะไรนายกฤษฎากล่าว

เร่งตรวจสอบ ร้านดิวตี้ฟรี หวั่นรายได้รั่วไหล

                ส่วนความคืบหน้าการทำ National Single Window ในส่วนของระบบภายในประเทศได้ดำเนินการเชื่อมโยงได้แล้ว 90% จาก 37 หน่วยงาน เหลือเพียงสินค้า 10% ของ 6 หน่วยงาน ที่รอการเชื่อมโยงระบบอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรที่อยู่ในการควบคุมราคาของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่การเชื่อมโยงระบบกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น ขณะนี้กำลังทดสอบระบบกับฟิลิปปินส์และเมียนมาอยู่ ขณะที่ลาวจะมีการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมต่อระบบได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากทำเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้านำเข้าส่งออกได้เป็นอย่างมาก

เร่งตรวจสอบ ร้านดิวตี้ฟรี หวั่นรายได้รั่วไหล