นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงในประเด็น “อุตุฯ ยุคใหม่ ไม่ใช่ธรรมดา” โดยเปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายหลัก คือ การตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ สังคม และประชาชนโดยการตรวจ เฝ้าระวัง พยากรณ์อากาศ เตือนภัยธรรมชาติด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และทันเหตุการณ์ มุ่งสู่วิสัยทัศน์ เป็นองค์กรสมรรถนะสูงด้านอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยธรรมชาติ เพื่อคุณภาพและประโยชน์ของสังคม
ปัจจุบันกรมอุตุนิยมวิทยาได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในการตรวจอากาศ วิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (HPC : High Performance Computer) เพื่อคาดการณ์สภาพอากาศและภูมิอากาศเพื่อการแจ้งเตือนภัยธรรมชาติที่แม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพและความถูกต้องในการพยากรณ์อากาศมีความละเอียดในระดับพื้นที่ พร้อมทั้งยังได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ เช่น Internet of Things (IoT) การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบริการดิจิทัลที่ชาญฉลาดเข้าถึงทุกที่ทุกเวลา (Digital Service) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญและมุ่งสู่การพัฒนาในอนาคตต่อไป นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยามีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือภาคประชาชนในการนำข้อมูลอุตุนิยมวิทยาไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ตามอาชีพของตน ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลประกอบธุรกิจตามประเภทธุรกิจของตน หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ สามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อประโยชน์ของสังคมได้อย่างมีประสิทธิผลและสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ให้กับประเทศได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า ภารกิจของกรมอุตุนิยมวิทยามีความสำคัญยิ่งต่อการเตือนภัย มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและบริหารจัดการภัยธรรมชาติในสภาวะอากาศต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม มีระบบบูรณาการความร่วมมือในการเตือนภัยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ในฐานะผู้บริหารของกระทรวงดีอีก็พร้อมให้การสนับสนุนทั้งงบประมาณและการอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติภารกิจ ส่งเสริมการพัฒนางานอุตุนิยมวิทยาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความพร้อมในการก้าวไปสู่อุตุนิยมวิทยา 4.0 ได้อย่างมั่นใจกรมอุตุนิยมวิทยา