แต่งดำทั้งองค์กร ต้านล้มนำเข้า LNG กฟผ.วัดใจ”ประยุทธ์”

06 ก.ย. 2562 | 08:55 น.

 

มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ให้ยกเลิกแผนการนําเข้าก๊าซแอลเอ็นจี 1.5 ล้านตันต่อปี ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้กฟผ.ไปดำเนินการทดลองนำเข้า เพื่อรองรับการเปิดเสรีการนำแอลเอ็นจี เพิ่มการแข่งขันให้มากขึ้น เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560  จนนำไปสู่การเปิดประมูล บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี เสนอมาในราคาต่ำสุด จากจำนวนผู้ร่วมเข้าร่วม 12 ราย

 

การยกเลิกประมูลนำเข้าแอลเอ็นจีดังกล่าว ได้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา  เมื่อสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) ในฐานะองค์กรตัวแทน ผู้ปฏิบัติงานกฟผ.ลุกขึ้นมาต่อต่อต้านมติกบง.ดังกล่าว โดยวันนี้( 6 ก.ย.62) พนักงานกฟผ.ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ออกมาแต่งกายชุดดำ และถือป้ายประท้วง ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติเอาไว้

 

พร้อมทั้ง ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า นำโดยนายศิริชัย ไม้งาม ประธาน สร.กฟผ.รวมถึงเดินทางเข้าพบนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือและหารือร่วมกันด้วย

แต่งดำทั้งองค์กร ต้านล้มนำเข้า LNG กฟผ.วัดใจ”ประยุทธ์”

ทั้งนี้ ในหนังสือระบุว่า รู้สึก แปลกใจและสับสนกับนโยบายที่กลับไปกลับมาของผู้กําหนดนโยบาย ที่พยายามหาเหตุผลยุติการดําเนินการ สร้างความเคลือบแคลงใจว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่ กฟผ. ดําเนินการประมูลจนได้บริษัทปิโตรนาส  แอลเอ็นจี จํากัด เป็นผู้เสนอราคาต่ําที่สุด จากผู้ร่วมเข้าประมูล 12 ราย 

 

ในส่วนประเด็นข้อกังวลเรื่องปัญหา การเกิดภาระ Take or Pay ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชน คณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เข้ามาบริหารจัดการหาข้อสรุปกับหน่วยงานของกระทรวงพลังงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งก่อนการเปิดประมูล กระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้ กฟผ. ร่วมหารือกับบริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) ผู้นําเข้าราย ใหญ่ของประเทศร่วมบริหารความเสี่ยง ซึ่ง กฟผ.ได้ช่วย ปตท. เจรจากับผู้ชนะการประมูลให้ช่วยบริหาร ความเสี่ยง จึงยืนยันได้ว่าหากดําเนินการตามแผนที่วางไว้ จะไม่เป็นปัญหาตามข้อกังวลดังกล่าว ซึ่งหากมี ปัญหาจริง ปตท. คงไม่กล้าเข้าร่วมประมูลหรือทักท้วงก่อนเกิดการประมูลในครั้งนี้ มิใช่มาทักท้วงหลังทราบผลการประมูล

แต่งดำทั้งองค์กร ต้านล้มนำเข้า LNG กฟผ.วัดใจ”ประยุทธ์”

สร.กฟผ. ขอเรียนว่า การดําเนินการเปิดประมูลการนําเข้าก๊าซแอลเอ็นจีในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ กฟผ. มีทางเลือกในการแสวงหาเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นหลากหลายราคา ที่สําคัญช่วยประหยัดและยืดเวลาการใช้ก๊าซธรรมชาติ จากแหล่งภายในประเทศไทยให้ยาวนานขึ้นเป็นประโยชน์ต่อการบริหารทรัพย์ยากรในยามฉุกเฉิน ของประเทศชาติ เป็นสิ่งที่อารยประเทศล้วนปฏิบัติ

 

การเปลี่ยนมาให้ กฟผ.นําเข้าแบบตลาดจร ที่มีปริมาณไม่เกินสองลําเรือ หรือประมาณ 180,000 ตัน เป็นนโยบายที่ขัดกันความเป็นจริงในทางปฏิบัติ ไม่สอดรับกับระบบธุรกิจก๊าซ เพราะจะใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ได้ไม่ถึง 2 เดือน ส่วนการบีบบังคับให้ กฟผ.ทําสัญญา Global DCQ กับ ปตท. ระยะยาว 20 – 25 ปี เป็นการสั่งขัดหลักการเปิด แข่งขัน เข้าสู่ระบบผูกขาดรายเดียวเหมือนเดิม ไม่สอดรับกับเทคโนโลยีผลิตกระแสไฟฟ้าที่กําลังเปลี่ยนไป เป็นพลังทดแทน ประเทศไทยในวันนี้ธุรกิจผลิตไฟฟ้าได้เปิดกว้างให้เกิดการแข่งขันเทียบเคียงแล้ว ส่งผลดีต่อราคาค่าไฟฟ้าที่ไม่เป็นภาระของประชาชนและสร้างโอกาสในการแข่งขันของประเทศ หากเปิดกว้างให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจนําเข้าแอลเอ็นจี ประโยชน์ย่อมเกิดกับประเทศชาติและประชาชนเช่นเดียวกัน

แต่งดำทั้งองค์กร ต้านล้มนำเข้า LNG กฟผ.วัดใจ”ประยุทธ์”

ทั้งนี้ หากราคาต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง ราคาค่าไฟฟ้าสําหรับประชาชนย่อมถูกลง การดําเนินการในเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดจากความต้องการในนโยบายของ ภาครัฐ อย่าให้ความเสียหายในภาพลักษณ์ ความเชื่อถือของประเทศ ความเสียหายด้านงบประมาณในการ ดําเนินการมาตกกับ กฟผ. อย่าคิดเพียงตอบแทนบุญคุณใคร โดยทําร้ายประเทศทําลายโอกาสประชาชน คนไทยกันเอง สร.กฟผ. และภาคประชาสังคมรับไม่ได้และไม่รับได้กับผู้ดําเนินนโยบายนี้

แต่งดำทั้งองค์กร ต้านล้มนำเข้า LNG กฟผ.วัดใจ”ประยุทธ์”

ดังนั้น หากมีการเปิดกว้าง จะมีผู้นําเข้ารายใหม่ๆ เสนอตัวแข่งขัน ต่อยอด พัฒนาจนประเทศไทย กลายเป็นฮับแอลเอ็นจีที่แข็งแรงของอาเซียน ผลประโยชน์โดยรวมจะตกแก่ประเทศชาติและประชาชน จึงขอความเป็นธรรมให้กับ กฟผ. โดยการอนุมัติสั่งการให้ กฟผ. ดําเนินการต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้  และเป็นการให้โอกาสกับประชาชนกับผู้ใช้ไฟฟ้า เช่นเดียวกัน เพราะวันนี้ราคาค่ากระแสไฟฟ้ามีเชื้อเพลิงคิดเป็นต้นทุนกว่า 70 % หากราคาต้นทุน เชื้อเพลิงลดลง ราคาค่าไฟฟ้าสําหรับประชาชนย่อมถูกลง บทสรุปของเรื่องนี้อยู่ที่ดุลพินิจของท่านนายกรัฐมนตรี สร.กฟผ.จะมาร่วมรับฟังผลการตัดสินของท่านในคราวประชุม กพช. ที่จะถึงกลางเดือนกันยายนนี้

แต่งดำทั้งองค์กร ต้านล้มนำเข้า LNG กฟผ.วัดใจ”ประยุทธ์”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กฟผ.ฮือ​ ต้านกบง.ยกเลิกนำเข้า LNG 1.5 ล้านตัน

กบง.ล้มดีลปิโตรนาสแสนล. ยกเลิกนำเข้า LNG 1.5 ล้านตัน

กฟผ. ยันเปิดเสรีนำเข้าLNG ช่วยค่าไฟถูกระยะยาว

ล้มนำเข้าLNGแสนล. ป้องค่าไฟพุ่ง2.4สต.