ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ขอความร่วมมือสถาบันการเงิน-นอนแบงก์ ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบภัยน้ำท่วม
ทั้งนี้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยพิจารณาช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องกับลูกหนี้ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ให้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้
พิจารณาปรับลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบให้ต่ำกว่า 10% ของยอดคงค้างจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 พิจารณาผ่อนผันหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามประกาศธปท.ว่า ด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โดยให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามความเหมาะสม จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
ส่วนเงื่อนไขในการผ่อนปรนและการรายงาน ให้ถือปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้ 1.ต้องมีนโยบายการให้ความช่วยเหลือและแนวทางการพิจารณาลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยอย่างชัดเจน 2.ต้องสามารถพิสูจน์หรือเชื่อมโยงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกหนี้แต่ละรายได้ 3.กรณีที่สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นบริษัทลูกในกลุ่ม Solo Consolidation ของสถาบันการเงิน ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้ปกติหรือกล่าวถึงเป็นพิเศษที่ได้รับผลกระทบ เช่น การให้สินเชื่อใหม่ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ การลดเงินต้นหรือดอกเบี้ย หรือการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ (Reschedule) ซึ่งครอบคลุมถึงการผ่อนผันการชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย และการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ดังกล่าวให้ คงสถานะจัดชั้นสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือไว้ตามเดิมก่อนเกิดเหตุสาธารณภัย และเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ทั่วไปตามแนวนโยบายธปท. และรายงานยอดสินเชื่อคงค้างของลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามแบบรายงานที่กำหนด สำหรับงวดสิ้นเดือนกันยายน 2562 ถึง สิ้นเดือนมีนาคม 2563 โดยให้จัดเก็บไว้ที่สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถตรวจสอบได้