ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ ( 16กันยายน ) ปิดที่ 27,076.82 จุด ลดลง 142.70 จุด หรือ -0.52% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,997.96 จุด ลดลง 9.43 จุด หรือ -0.31 % และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,153.54 จุด ลดลง 23.17 จุด หรือ - 0.28%
ดัชนีดาวโจนส์ปรับร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วัน จากความวิตกการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ผลกระทบจากกรณีที่โรงงานน้ำมันสองแห่งในเขต Abqaiq และ Khurais ในประเทศซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีด้วยโดรนจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ โดยโรงงานทั้งสองแห่งเป็นของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย
เจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า เหตุโจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซ 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ตัวเลขล่าสุดที่โอเปกเปิดเผยเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมัน 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน เท่ากับว่าผลผลิตจะหายไปราวครึ่งหนึ่ง หรือคิดเป็น 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก
อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีคำสั่งให้ระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ของสหรัฐ หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า เหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นแตะ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล หากการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลดลง 4 ล้านบาร์เรล/วันมากกว่า 3 เดือน แต่หากซาอุดีอาระเบียสามารถฟื้นการผลิตน้ำมันอย่างรวดเร็ว และการโจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตไม่นาน ราคาน้ำมันก็จะปรับตัวขึ้นเพียง 3-4 ดอลลาร์/บาร์เรล