ตลท. ยํ้าภารกิจ ร่วมพันธมิตร สร้างภูมิคุ้มกันหนุนบจ.โตยั่งยืน

18 ก.ย. 2562 | 23:25 น.

ลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกยํ้าภารกิจจับมือพันธมิตรส่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผลักดันบจ.ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล หนุนเป้าเติบโตอย่างยั่งยืน เผย 7 บจ.ไทย BANPU- CPALL-PTTEP-PTTGC-TOP -TRUE และ TU คว้าแชมป์ลีดเดอร์ อินดัสตรีใน DJSI

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ฯในการสร้างภูมิคุ้มกันที่จะทำให้เศรษฐกิจและสังคมไทยก้าวพ้นกับดักความยากจนและความเหลื่อมลํ้าว่า ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการ 2 แนวทาง คือ 1. การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน โดยการยกระดับความรู้ทางด้านการเงินและความมั่นคงทางการเงิน และ 2. ยกระดับการกำกับกิจการและสร้างคุณภาพบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยการพัฒนาได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ESG(Environmental, Social, and Governance)

ทั้งนี้ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า หนี้ครัวเรือนของไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 25% จากสัดส่วน 53.5% ขึ้นเป็น 78.6% ของจีดีพีในปี 2561สูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากเกาหลี สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยพบว่า 40-50% เป็นหนี้ระยะสั้น ได้แก่หนี้ส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ ขณะที่หนี้สินเชื่อบ้านและเป็นหนี้ระยะยาวกลับมีสัดส่วนเพียง 33% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด

 

ตลท. ยํ้าภารกิจ ร่วมพันธมิตร  สร้างภูมิคุ้มกันหนุนบจ.โตยั่งยืน

 

คนเป็นหนี้อายุน้อยลง มีหนี้มากขึ้น และหนี้ไม่ได้ลดลงแม้จะเข้าสู่วัยเกษียณ ซึ่งหากคนไทยยังออมเงินเหมือนเดิม โอกาสที่จะใช้ชีวิตให้เหมือนเดิมหลังเกษียณจะยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะโลกอี-คอมเมิร์ซ สร้างความสะดวกในการซื้อขายผ่านออนไลน์ ทำให้ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่จับจ่ายมากขึ้น แต่ขาดทักษะในการบริหารเงินบุคคล กลายเป็นปัญหาระดับชาติ”      

นายภากร กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯได้วางรากฐานทางการเงินมานานกว่า 2 ทศวรรษ โดยการสร้างโครงการให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นระดับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป กลุ่มคนที่เป็นนักลงทุน ด้วยการผลักดันหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลเข้าสู่ระบบการศึกษา การเตรียมพร้อมนักศึกษาเข้าอุตสาหกรรม ผ่านโครงการแข่งขัน Young Financial Star Competition (YFS) หรือส่วนของนักลงทุน ได้จัดโครงการเรียนผ่านห้องเรียนนักลงทุน ฯลฯ โดยความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ ..., กองทุนการออมแห่งชาติ (กบข.) บลจ.,บล. ฯลฯ

สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับบจ. ตลาดหลักทรัพย์ฯได้วางรากฐาน จากจุดเริ่มวิกฤติปี 2540” จากปัญหาใหญ่ของบจ.ขณะนั้นคือไม่สามารถระดมเงินทุนได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติไม่มีความเชื่อถือในข้อมูล ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯตระหนักเรื่องนี้ จึงได้วางรากฐานโครงสร้าง โดยให้บจ.มีธรรมาภิบาลที่ดี รายงานต้องตรง ต้องปกป้องผู้ถือหุ้น ข้อมูลที่เผยแพร่ต้องทันเวลาตรงกับความต้องการ โดยพยายามสร้าง Corporate Governance ในการจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งหลังจากนั้นมา ปัจจุบันความน่าเชื่อถือของบจ.ไทยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนและเป็นอันดับ 5 ในทวีปเอเชีย และมีบจ. 20 บริษัทได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มบริษัทดัชนีความยั่งยืนระดับโลก จำนวนนี้มี 7 บริษัท เป็นระดับ Leader Industry ของโลก

เขากล่าวทิ้งท้ายว่าสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะดำเนินการต่อจากนี้ คือการเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อผลักดันและส่งเสริมให้เกิดภูมิคุ้มกันในการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทย เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติให้เกิดขึ้น และมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทย

7 บจ.ไทยที่ได้คะแนนเป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนรายกลุ่มอุตสาหกรรมของดัชนีความยั่งยืน DJSI ได้แก่ 1) BANPU กลุ่มถ่านหินและเชื้อเพลิง 2) CPALL กลุ่มค้าปลีกอาหารและอุปโภคบริโภค 3) PTTEP กลุ่มนํ้ามันและก๊าซต้นทาง 4) PTTGC กลุ่มเคมีภัณฑ์ 5) TOP กลุ่มการกลั่นและการตลาดนํ้ามันและก๊าซ 6) TRUE กลุ่มบริการโทรคมนาคม และ 7) TU กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร (ตารางประกอบ)

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,506 วันที่ 19-21 กันยายน 2562

ตลท. ยํ้าภารกิจ ร่วมพันธมิตร  สร้างภูมิคุ้มกันหนุนบจ.โตยั่งยืน