มาสด้า 3 โฉมใหม่ ทำตลาดทั้งตัวถังซีดาน และฟาสท์แบค วางเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรบล็อกเดิมแต่พัฒนาใหม่ และอัดเทคโนโลยีทันสมัยมาเพียบ แบ่งขาย 3 รุ่นย่อย ราคา 9.69 แสนบาท – 1.198 ล้านบาท หรือขยับขึ้น 1.8 - 7.1 หมื่นบาท
มาสด้า 3 โฉมใหม่ (ALL-NEW MAZDA3) ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งคัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง ด้วยสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE
การออกแบบสไตล์ KODO โดดเด่นสะดุดตาด้วยแสงและเงาจากธรรมชาติที่ตกกระทบบนตัวรถ โดยตัวถังซีดาน 4 ประตู เน้นความเรียบหรูใส่ใจในทุกรายละเอียด ส่วนฟาสท์แบค 5 ประตู โดดเด่นด้วยความสปอร์ต เน้นความเรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลัง
ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุเกรดพรีเมียมครบครันทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเบาะดีไซน์ใหม่ที่โอบกระชับ รองรับสรีระช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะเดิน และเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน การเชื่อมต่อสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน สัมผัสกับห้องโดยสารที่เงียบขึ้น และระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ถูกพัฒนาใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ผนวกกับหัวฉีดดีไซน์ใหม่ ส่งผลให้มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง แรงบิดเพิ่มขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) โดยระบบจะปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ขับขี่แก้พวงมาลัยน้อยลง ควบคุมรถง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้งและออกจากโค้งได้นุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าสะสมจากการขับรถทางไกลของผู้ขับขี่ และการโคลงตัวไปมาของผู้โดยสาร
มาสด้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE สำหรับ ALL-NEW MAZDA3 ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถอย่างจริงจัง โดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุประกอบด้วย
• ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่สามารถควบคุมความเร็วของรถ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
• ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน
• ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
• ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น
• ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
• ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
• ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
• ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
• และปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
สำหรับ มาสด้า3 โฉมใหม่ ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู ขายในราคาเดียวกัน
รุ่น 2.0 C ราคา 969,000 บาท (เพิ่มขึ้น 18,000 บาท)
รุ่น 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท (เพิ่มขึ้น 71,000 บาท)
รุ่น 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท (เพิ่มขึ้น 49,000 บาท)