‘ฉงชิ่ง’ฐานผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

07 ส.ค. 2559 | 04:00 น.
มหานครฉงชิ่ง นอกจากจะเป็นฐานอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งอุตสาหกรรมการผลิตที่มีชื่อเสียงและได้รับการจับตามองจากทั่วโลก นั่นก็คือ อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบัน มหานครฉงชิ่งได้รับการยอมรับจากนานาประเทศในการเป็นผู้นำการผลิตสินค้าประเภทดังกล่าว และได้ยกสถานะขึ้นเป็นฐานการผลิตคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจีน และเป็นฐานผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ย้อนกลับไปช่วงปี 2534 คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเริ่มผลิตอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐฯ และได้เคลื่อนย้ายฐานการผลิตไปยังไต้หวัน ซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้เคลื่อนย้ายไปตามประเทศต่าง ๆ เพื่อค้นหาฐานการผลิตที่เหมาะสมและมีความเพียบพร้อมทางด้านแรงงาน เทคโนโลยีและสาธารณูปโภค ต่อมาในปี 2543 อุตสาหกรรมการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้เคลื่อนย้ายเข้าสู่ประเทศจีนเป็นครั้งแรก ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของจีนกำลังเข้าสู่ยุคเฟื่องฟู โดยกลุ่มวิสาหกิจด้านคอมพิวเตอร์ได้ตั้งฐานการผลิตในเมืองแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ นครหางโจวและนครเจียงซู

จากนั้นตั้งแต่ปี 2551 จากการพัฒนาเศรษฐกิจที่รวดเร็วของจีนได้ส่งผลให้อัตราค่าจ้างแรงงานเมืองในแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกของจีนเพิ่มสูงขึ้น กอปรกับเข้าสู่ยุคที่เศรษฐกิจจีนกระจายการเติบโตไปยังภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะภูมิภาคจีนตะวันตกที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดจากการดำเนินนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจจีนตะวันตกที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2543 ทำให้กลุ่มวิสาหกิจด้านคอมพิวเตอร์เบนเข็มการลงทุนมายังมหานครฉงชิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งภูมิภาคจีนตะวันตก

ปี 2552 บริษัทคอมพิวเตอร์ HP ของสหรัฐฯ ได้เล็งเห็นศักยภาพทางเศรษฐกิจของมหานครฉงชิ่ง และได้เข้ามาลงทุนก่อตั้งฐานการผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเป็นรายแรกในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ในขณะนั้น มหานครฉงชิ่งถูกจับตามองมากขึ้นจากวงการธุรกิจคอมพิวเตอร์ในฐานะแหล่งการลงทุนหน้าใหม่ หลังจากนั้นไม่นานบริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลก ได้แก่ Acer Toshiba และ Asus รวมถึงบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์ Foxconn, Inventec และ Wistron เป็นต้น ก็ได้ทยอยเข้ามาปักหมุดลงทุนในมหานครฉงชิ่งกันอย่างไม่ขาดสาย

จากสถิติของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสารสนเทศมหานครฉงชิ่ง ระบุว่า ในปี 2557 มหานครฉงชิ่งสามารถผลิตคอมพิวเตอร์มากเป็นจำนวนถึง 64 ล้านเครื่อง (เป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 61 ล้านเครื่อง) สูงขึ้น 15% คิดเป็นสัดส่วน 40% ของจำนวนการผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลก หมายถึงว่า คอมพิวเตอร์ทุก 1 ใน 3 เครื่อง ผลิตมาจากมหานครฉงชิ่ง จากสถิติข้างต้นทำให้มหานครฉงชิ่งกลายเป็น “ฐานผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

นอกเหนือจากการผลิตคอมพิวเตอร์แล้ว ในปี 2557 มหานครฉงชิ่งยังผลิตโทรศัพท์มือถือ 95 ล้านเครื่อง จอภาพ 13 ล้านเครื่อง เครื่องพิมพ์ 16 ล้านเครื่อง เครื่องรับสัญญาณอินเทอร์เน็ต 100 ล้านเครื่อง เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ 10 ล้านเครื่อง และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่น ๆ อีกกว่า 200 ล้านชิ้น โดยรายการสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทุกประเภทในปี 2557 ของแบรนด์ Acer 100%, Toshiba 90%, Asus 80% และ HP 60% ผลิตที่มหานครฉงชิ่ง นายหวง ฉีฟาน นายกเทศมนตรีมหานครฉงชิ่ง กล่าวว่า “หลายปีมานี้อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากดำเนินนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจจีนตะวันตกและนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตในด้านต่าง ๆ จากภาครัฐ เป็นแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมการผลิตได้รับการพัฒนาและมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่มีบทบาททำให้อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในมหานครฉงชิ่งเติบโต ได้แก่ 1) นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เครื่องจักรผลิตสินค้ามีการทำงานที่รวดเร็วและผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก 2) มีโครงข่ายการขนส่งสินค้าที่สะดวกสมบูรณ์ ได้แก่ รถไฟฉงชิ่ง-ยุโรป รถไฟฉงชิ่ง-เอเชียกลาง อีกทั้งท่าเรือฉงชิ่งขนส่งทางน้ำผ่านแม่น้ำแยงซีเกียงถึงมหานครเซี่ยงไฮ้และส่งต่อทางทะเลไปยังต่างประเทศ 3) เป็นด่านนำเข้า-ส่งออกสินค้าสำคัญในจีนตะวันตก และมีเขตสินค้าทัณฑ์บนเหลียงลู่ชุ่นทาน ซึ่งเป็นเขตสินค้าปลอดภาษีแห่งแรกที่อยู่ในดินแดนตอนในของจีน และ 4) การปฏิรูประบบการย้ายสำมะโนครัวชาวชนบทเข้าในเมือง และการลดหย่อนมาตรการซื้อ-เช่าที่พักอาศัย ทำให้ชาวชนบทย้ายเข้ามาทำงานในเมืองมากขึ้น สร้างความได้เปรียบทางด้านแรงงาน

ก้าวต่อไป มหานครฉงชิ่งจะยกระดับคุณภาพการบริการและปรับปรุงระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น เพื่อเป็นจุดแข็งในการโน้มน้าวความสนใจขององค์กรการเงินและกลุ่มการลงทุน ขณะเดียวกัน จะสนับสนุนให้บริษัทที่เกี่ยวข้องเพิ่มการลงทุนด้านวิจัยเพื่อก่อให้เกิดนวัตกรรมทางผลผลิต เพิ่มความสามารถเพื่อแข่งขันในตลาดสากล

นอกจากนี้ รัฐบาลฉงชิ่งเตรียมให้หลักประกันด้านการนำเข้า-ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และการเช่า-ซื้อที่ดินจัดตั้งโรงงานแก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในมหานครฉงชิ่ง ตลอดจนให้สวัสดิการด้านต่าง ๆ แก่ลูกจ้างแรงงาน อาทิ ที่พักอาศัย การรักษาพยาบาล และการศึกษาของบุตร-ธิดาของลูกจ้างแรงงาน ทั้งนี้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

ณ ธันวาคม 2558 มหานครฉงชิ่งมีบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่เข้ามาลงทุนหลายราย ได้แก่ HP Acer Toshiba และ Asus บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์ 6 รายใหญ่ของโลก ได้แก่ Foxconn, Inventec Wistron, Quanta, Renbao และ Heshuo รวมทั้งมีบริษัทประกอบคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 875 แห่ง

จะเห็นได้ว่า มหานครฉงชิ่งให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากตระหนักว่า สินค้าเหล่านี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก และมีแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น มหานครฉงชิ่งจึงเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมด้านนี้อย่างเต็มที่ โดยอาศัยการมีพื้นฐานอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย และนโยบายส่งเสริมในด้านต่าง ๆ จากภาครัฐ เพื่อต่อยอดการเติบโตอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในมหานครฉงชิ่งให้ก้าวขึ้นสู่ระดับแนวหน้าในตลาดสากล

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องทางการค้า-การลงทุน และความเคลื่อนไหวล่าสุดของเศรษฐกิจจีนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (BIC) www.thaibizchina.com หรือช่องทางใหม่ www.facebook.com/thaibizchina

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,180 วันที่ 4 - 6 สิงหาคม พ.ศ. 2559