ใช้จ่ายสูงทำเทสลาขาดทุนเพิ่ม ยืนยันอุปสรรคการผลิตคลี่คลายพร้อมเร่งดันโมเดล 3

09 ส.ค. 2559 | 12:00 น.
เทสลา มอเตอร์ส รายงานผลประกอบการขาดทุนในไตรมาสที่ผ่านมา ท่ามกลางค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังยืนยันแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วม 8 หมื่นคันในปีนี้ พร้อมเตรียมผลักดันรถยนต์ซีดานราคาถูกลงออกสู่ตลาดแมส

เทสลา มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รายงานผลประกอบการขาดทุน 293 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 2 ของปี 2559 เป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้น 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 33% เป็น 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการเพิ่มขึ้น 34% เป็น 512.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเทสลาส่งมอบรถยนต์จำนวน 14,402 คันในช่วงไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าเป้า 17,000 คันที่ตั้งไว้

อีลอน มัสก์ ประธานบริษัทเทสลา มอเตอร์ส ยอมรับว่า บริษัทประสบปัญหาในการผลิตรถยนต์ในช่วงครึ่งแรกของปี จากปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลนและความยุ่งยากในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้มากเกินไป อย่างไรก็ตาม เวลานี้กระบวนการผลิตเดินหน้าต่อไปได้และสถานการณ์กลับมามีเสถียรภาพขึ้นอีกครั้ง

เมื่อเดือนก่อน มัสก์เปิดเผยแผนแม่บทใหม่ของบริษัท โดยต้องการที่จะวางจำหน่ายรถบัส รถกึ่งบรรทุก และรถปิกอัพไฟฟ้าภายใต้ชื่อแบรนด์เทสลา อีกทั้งวางวิสัยทัศน์ในการเป็นซัพพลายเออร์ด้านพลังงานที่ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสินค้าประเภทแบตเตอรี่และแผงพลังงานแสงอาทิตย์

ทั้งนี้ เทสลาทำยอดขายรถเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนรถยนต์ที่ขายได้เพิ่มขึ้น 25% ในไตรมาสที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ายอดขายจะต่ำกว่าความคาดหมาย แต่เทสลาระบุผ่านจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมากำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึงระดับ 2,000 คันต่อสัปดาห์ และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มอัตราการผลิตขึ้นอีกเกือบ 20% ภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งเชื่อว่าจะสามารถผลิตและส่งรถยนต์ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงครึ่งปีหลัง

นักลงทุนต่างจับตามองความสามารถของมัสก์และเทสลาในการพัฒนาการผลิต เพื่อให้เพียงพอรองรับกับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาที่ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อความต้องการโดยรวมของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบ้างก็ตาม

เทสลากล่าวด้วยว่า นับจากนี้ไปจะผลักดันแผนการผลิตรถยนต์รุ่น โมเดล 3 อย่างเต็มรูปแบบภายในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะเริ่มต้นการผลิตในบางส่วนได้ในช่วงหลังของปีนี้ เพื่อให้ทันกับกำหนดวางตลาดในปลายปีหน้า ทั้งนี้ รถยนต์รุ่นโมเดล 3 เป็นรุ่นที่เทสลาวางเป้าหมายเจาะกลุ่มตลาดแมส ด้วยราคาขายที่ตั้งไว้ประมาณ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.22 ล้านบาท)

ขณะเดียวกัน เทสลารายงานว่าเงินสดสำรองของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อ 6 เดือนก่อน แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการทุ่มเงินลงทุนเป็นจำนวนมากไปกับการพัฒนารถยนต์รุ่นโมเดล 3 และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่รัฐเนวาดาในสหรัฐฯ โดยเงินสดที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการระดมทุนขายหุ้นรอบ 2 เป็นมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ผ่านมา

หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนทางหลวงของสหรัฐฯ กำลังสอบสวนคดีของผู้ขับขี่รายหนึ่งซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในระหว่างการใช้งานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์รุ่น โมเดล เอส ของเทสลา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมัสก์แสดงความประหลาดใจที่เจ้าหน้าที่ทางการเปิดการสอบสวน เนื่องจากได้ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม มัสก์เชื่อว่าเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และอาจเร็วกว่าที่หลายคนคาดคิด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559