ตามที่หลักทรัพย์ของ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ในวันที่ 1 มี.ค. 2567 จากกรณีไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2566 ภายในเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้บริษัท ฯ ได้มีการนำส่งงบการเงินประจำปี 2566 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าวของบริษัท ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงยังคงเครื่องหมาย SP ของหลักทรัพย์ ITD ในวันที่ 29 มีนาคม 2567 โดยจะปลดเครื่องหมาย SP และจะขึ้นเครื่องหมาย CS (Caution - Financial Statements ต้องซื้อด้วยบัญชี Cash Balance) ในวันทำการถัดไป คือวันที่ 1 เมษายน 2567
ทั้งนี้หลักทรัพย์ที่ถูกขึ้นเครื่องหมายข้างต้น จะต้องซื้อด้วยบัญชี Cash Balance คือ สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์นั้น ตั้งแต่วันที่ขึ้นเครื่องหมายเป็นต้นไป จนกว่าจะแก้เหตุดังกล่าวได้
แจงกรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงินปี 66
นางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการรองประธานบริหารอาวุโส บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD เปิดเผยว่า ปี 2566 มีผลขาดทุนสุทธิ 1,072 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 77% จากปี 65 ที่ขาดทุน 4,759 ล้านบาท
พร้อมได้ชี้แจงถึงกรณีการที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการของกลุ่มบริษัทและบริษัทฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ว่าไม่ได้มีสาเหตุจากการถูกจำกัดขอบเขตโดยผู้บริหาร หรือผิดมาตรฐานการบัญชีไทย แต่เกิดจากผลกระทบต่อความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนการธุรกิจและกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่ากลุ่มบริษัทและบริษัทฯ จะมีสภาพคล่องอย่างเพียงพอและมีความสามารถในการชำระหนี้เมื่อครบกำหนดและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้
1.เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 บริษัทฯ ได้จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ ITD242A, ITD24DA, ITD254A, ITD266A และ ITD24DB ซึ่งมียอดเงินต้นค้างชำระรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14,445 ล้านบาท โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขยายวันครบก าหนดไถ่ถอนหุ้นกู้แต่ละรุ่นออกไปอีก 2 ปีนับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม รวมถึงเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินรวมข้อ 49.1
ทั้งนี้ เมื่อมีการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้แต่ละรุ่นออกไปอีก 2 ปีนับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมแล้ว หนี้สินหมุนเวียนของบริษัทฯ ที่ถึงกำหนดชำระใน 1 ปี ในไตรมาสหนึ่งของปี 2567จะลดลง
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นได้มีมติอนุมัติผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นตามที่กำหนดไว้ในข้อก าหนดสิทธิ โดยให้มีผลตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชี 2566จนถึงวันสิ้นสุดรอบปีบัญชี 2568และผ่อนผันให้ผู้ออกหุ้นกู้ดำเนินการเจรจาหรือเข้าทำสัญญาใด ๆ กับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ
2.บริษัทฯ ได้ขอผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำรงสัดส่วนทางการเงินกับสถาบันการเงินบางแห่งและได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวจากธนาคารแล้ว โดยบริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งอนุโลมการปฏิบัติเงื่อนไขดังกล่าวเมื่อวันที่ 29กุมภาพันธ์ 2567 และ 18 มีนาคม 2567 ตามที่ได้กล่าวถึงในหมายเหตุประกอบงบการเงินรวมข้อ 49.2 ซึ่งจากการไม่สามารถดำรงสัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นดังกล่าว สถาบันการเงินสถาบันการเงินมีสิทธิเรียกชำระคืนเงินกู้ยืม แต่สถาบันการเงินไม่ได้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว
ดังนั้น การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเรื่องการดำรงสัดส่วนทางการเงินดังกล่าวจึงไม่เป็นเหตุให้บริษัทฯปฏิบัติผิดเงื่อนไขในสัญญากู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน
ITD เผยสถาบันการเงิน เริ่มทยอยปล่อยสินเชื่อแล้ว
อนึ่ง บริษัทฯ มีแนวทางการจัดการปัญหาการขาดสภาพคล่อง โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ธนาคารหลักเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านสินเชื่อทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯ ทยอยได้รับสินเชื่อมาบางส่วนแล้ว และคาดว่าบริษัทฯ และกลุ่มเจ้าหนี้ธนาคารหลักจะตกลงเรื่องสัญญาการให้สินเชื่อจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
3.บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนระบบการทำงานและระบบควบคุมเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันและมีกำไรจากผลการดำเนินงานโดยมีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน และมีการรายงานผลประจำทุกเดือน และมีแผนการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใด้ใช้ในการดำเนินงานเพื่อลดภาระหนี้ของบริษัทฯ
4.บริษัทฯ เชื่อมั่นในศักยภาพและโอกาสที่จะได้รับงานโครงการก่อสร้างขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ที่ทางภาครัฐและเอกชนอยู่ระหว่างการประกาศจัดซื้อจัดจ้าง เป็นจำนวนมาก ได้แก่ งานสร้างถนน ทางด่วน รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง การขยายสนามบินทั้งในปริมณฑลกรุงเทพและต่างจังหวัดหลัก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น เนื่องจากบริษัทฯ มีประสบการณ์และผลงานในอดีตที่สามารถแข่งขันได้ทุกประเภท
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าหากบริษัทฯ ได้รับงานโครงการก่อสร้างจากภาครัฐและภาคเอกชนดังกล่าว บริษัทฯ ก็จะสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง