ADVANC ผลงานไตรมาส 2/67 หดตัว หลังหมดมาตรการรัฐ เข้าโลวซีซัน

นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร หัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และกำกับดูแลการปฏิบัติงาน บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2567 อาจมีการเติบโตที่ชะลอตัวกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 53,465.06 ล้านบาท เนื่องจากหมดมาตรการลดหย่อนภาษี Easy e-Receip ทำให้กำลังซื้อโทรศัพท์เบาบางลง อีกทั้งยังเป็นโลวซีซันของธุรกิจตามปกติของทุกปี โดยช่วงไฮซีซันจะเป็นไตรมาส 1 และ 4 ของทุกปี

ในขณะที่รายได้ด้านภาคบริการนั้น มองว่าบริษัทยังสามารถประคองตัวได้ โดยธุรกิจมือถือมีระดับราคาให้บริการเหมาะสมกับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม แม้มีความกังวลในกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการต่อลูกค้าหนึ่งคน (ARPU) น้อย ซึ่งกำลังซื้อในกลุ่มดังกล่าวยังต่ำ แต่บริษัทก็มีระบบเติมเงิน (Prepaid) รายวัน เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถใช้บริการได้ สำหรับกลุ่มลูกค้า ARPU สูง ปัจจุบันเริ่มเห็นการใช้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะลูกค้าให้ความสำคัญคอนเทนต์ หรือบริการอื่นๆ เสริม เข้ามา รวมถึงการเปลี่ยนใช้บริการแพ็คเกจ 5G เพิ่มขึ้น

ส่วนธุรกิจบรอดแบรนด์นั้น มองว่ายังคงมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หลังควบรวมกลุ่ม TTTBB ส่งผลให้ฐานลูกค้าโดยรวมเพิ่มเป็นกว่า 4.8 ล้านราย เพิ่มขึ้น 72,000 ราย และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการใหม่ในปีนี้ราว 300,00 ราย สะท้อนต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน สำหรับธุรกิจเอ็นเตอร์ไพร์ส (องค์กร) มองว่าอาจมีการเติบโตช้า เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและนโยบายภาครัฐ โดยในไตรมาส 1/2567 ยังเติบโตได้ไม่ดีมากนัก แต่ภาพรวมองค์กรอยากปรับปลี่ยนข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัลซึ่งยังมีความต้องการสูง โดยเฉพาะดีมานด์ในส่วนของ Cloud และบริการการเชื่อมต่อสื่อสาร รวมถึงบริการเทคโนโลยีดิจิทัลที่สร้างมูลค่าเพิ่มที่มากขึ้น

ด้านการแข่งขันธุรกิจโทรคมนาคมในตลาดนั้น ปัจจุบันแม้จะมีประเด็นการควบรวมธุรกิจมือถือในตลาด แต่การแข่งขันยังคงมีความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่รูปแบบจะเป็นการแข่งกันที่คุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงการเพิ่มบริการในแพ็คเกจต่างๆ มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังคงยึดการให้บริการลูกค้าที่มีคุณภาพก่อน

ADVANC โชว์ฟอร์มเด่น ปั้นกำไรไตรมาสแรกทะยาน 8.45 พันล้าน โต 25%

ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทยังคาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 13-15% จากปีก่อนที่ระดับ 189,720.27 ล้านบาท ตามการขยายตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ธุรกิจบริการลูกค้าองค์ และการรับรู้รายได้จากการซื้อกิจการ TTTBB รวมถึงมี EBITDA เติบโตประมาณ 14-16% อย่างไรก็ตาม งบลงทุนในการรวมกิจการของ TTTBB คาดว่าจะใช้ราว 500-700 ล้านบาท ระหว่างปี 2566-2568  โดยงบลงทุนด้านเทคโนโลยีซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 2/2567 และ 3/2567

กรณีการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาร่วมกับพันธมิตร ว่าจะยื่นใบสมัครหรือไม่ และหากมีการยื่นใบสมัครจะมีรายละเอียดอย่างไร โดยสัดส่วนการถือหุ้นยังต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ก่อนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดให้ยื่นสมัครช่วงเดือนกันยายน 2567 และผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตน่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในปี 2569

ขณะที่กรณีการก่อสร้างโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ ขนาดกว่า 20 เมกะวัตต์ ใน จ.สมุทรปราการ ร่วมกับบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และ บริษัทในเครือของ บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ จำกัดบริษัทในเครือของ บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด นั้น ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป