โรคสมาธิสั้น (ADHD – Attention Deficit Hyperactivity Disorder) คือ ภาวะผิดปกติทางจิตเวชที่ส่งผลให้มีสมาธิสั้นกว่าปกติ เช่น ขาดการควบคุมการเคลื่อนไหว ทำให้มีลักษณะอาการวอกแวกง่าย ไม่เคยอยู่นิ่ง เวลาที่พูดด้วยจะไม่ตั้งใจฟังและเก็บรายละเอียดไม่ค่อยได้ ขาดความรับผิดชอบ ใจร้อน รอคอยอะไรไม่ได้ หงุดหงิดง่าย ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 3-7 ปีเป็นต้นไป และอาจต่อเนื่องไปจนโต และรู้หรือไม่ว่าโรคสมาธิสั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน
โดยลักษณะที่สำคัญของคนที่เป็นโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ คือ จะมีปัญหาเกี่ยวกับการวางแผน การแก้ไขปัญหา ไม่สามารถจัดการกับเวลาได้เมื่อต้องทำงานที่มีกำหนดเวลา ทำงานไม่เสร็จ เพราะมีความผิดปกติของสมองส่วนหน้าที่เกี่ยวข้องกับความคิด การวางแผน การบริหารจัดการชีวิตในเรื่องต่างๆ (Executive Functions-EF) ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าด้วยยุคที่ความก้าวหน้าและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากในชีวิตประจำวันของเรา ความบันเทิงต่างๆ ที่ส่งผ่านหน้าจออกมา ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับภาพและเสียงบนจอนานวันละหลายชั่วโมง
แต่รู้หรือไม่ว่าการจดจ่อกับหน้าจอเป็นเวลานาน สะสมจนทำให้เกิด “สมาธิสั้น” ได้ โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ ส่งผลกระทบต่อการทำงาน รวมไปถึงความสันพันธ์กับคนรอบข้าง ต่อความคิด การวางแผน และการจัดการบริหารชีวิต และที่สำคัญที่สุดคือควรมาปรึกษาจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยและประเมินอาการ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งมีหลากหลายวิธีการรักษาทั้งการรับประทานยา ร่วมกับการปรับพฤติกรรม การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม ฝึกการควบคุมอารมณ์ตนเอง ไม่ให้ดีใจหรือเสียใจเร็วเกินไป
อาการที่พบบ่อย “โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีอาการครบทั้งหมดที่กล่าวมาก็ไม่ได้แปลว่าชีวิตจะสูญสิ้นแล้ว ความเป็นจริงก็คือ ยังมีคนสมาธิสั้นจำนวนมากที่กลายเป็นคนมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในชีวิต ขอเพียงรู้ตัวเองและเริ่มลงมือทำเพื่อแก้ปัญหา การสร้างนิสัยที่มีวินัย การตรงต่อเวลา การจัดระบบระเบียบ การทำงานให้สำเร็จ การควบคุมอารมณ์ เหล่านี้สามารถพัฒนาได้ทั้งสิ้น โดยการแก้ไขที่ง่ายที่สุดคือ เริ่มแก้ไปทีละจุด เช่น เริ่มที่การทำงานให้จบเป็นชิ้นเป็นอันก่อน