นายกฯ สั่งทุกกระทรวงพร้อมรับมือ "พายุฤดูร้อน-ฝนทิ้งช่วง"

07 พ.ค. 2567 | 08:00 น.

นายกฯ สั่งหน่วยงานเตรียมพร้อมช่วยประชาชนรับมือ "พายุฤดูร้อน" และสำรองน้ำแก้ภาวะฝนทิ้งช่วงโดยขอให้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งดำเนินการขุดเจาะน้ำบาดาลเพื่อลดผลกระทบ

7 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการและนโยบายในหลายประเด็นโดยให้หน่วยงานต่าง ๆ หารือและเร่งรัดการดำเนินกิจกรรมงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงกิจกรรมต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ให้เร่งเสนอกิจกรรมมายังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นี้ 

นายกฯ สั่งทุกกระทรวงพร้อมรับมือ \"พายุฤดูร้อน-ฝนทิ้งช่วง\"

ส่วนการช่วยเหลือในด้านพายุฤดูร้อนและภัยแล้ง นายกฯ ขอให้ความร่วมมือหน่วยงานความมั่นคงโดยเฉพาะหน่วยทหารพัฒนา เร่งขุดลอกคูคลองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทำการเกษตร และเร่งจัดสรรพื้นที่ของหน่วยทหารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้แก่ประชาชนเข้ามาใช้ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งจัดหาพื้นที่สำหรับศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยขอให้สรุปรายงานความคืบหน้า และแผนงานการปฏิบัติงานในการประชุม ครม. ครั้งต่อไป

ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและการจัดการอย่างเด็ดขาดของผู้ว่าราชการจังหวัด และตำรวจ ให้มีผลการจับกุมที่ชัดเจนภายใน 90 วัน โดยเฉพาะจังหวัดเป้าหมายที่ทาง ปปส. กำหนดพื้นที่สีแดง จำนวน 25 จังหวัด

นายกฯ สั่งทุกกระทรวงพร้อมรับมือ \"พายุฤดูร้อน-ฝนทิ้งช่วง\"

พร้อมสั่งการให้ ปปส. ติดตามและรายงานอย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลพร้อมให้รางวัลแก่ผู้ที่ทำสำเร็จได้ดีตามเป้าหมายและจะมีมาตรการกับผู้บกพร่องงานและหละหลวมกับการปราบปรามยาเสพติดด้วย

นายกฯ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงในสถาบันครอบครัว รวมไปถึงการป้องกันการละเมิดและคุกคามเด็กในสถาบันศึกษาซึ่งเป็น 1 ในประเด็นที่ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนได้นำเสนอมติของสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2566 จากทั้งหมด 6 ประเด็นซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญ และเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปดำเนินการในการขับเคลื่อนมติดังกล่าว ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนที่จะเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบาย

นายกฯ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาประชุมเรื่องการจัดตั้งศูนย์บริการการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จ (One stop service) เช้านี้ โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ในการจัดประชุมเร่งวางแผนในการให้บริการแก่ประชาชน และผู้ประกอบการในรูปแบบ single submission โดยให้ทดลองระบบวันที่ 1 กันยายนนี้ ณ ด่านศุลกากรหนองคาย และให้แล้วเสร็จเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ พร้อมทั้งให้เร่งพิจารณาในด่านศุลกากรอื่นๆ ที่มีความพร้อมให้เร่งดำเนินการคู่ขนานกันไปด้วย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายกฯ สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งดำเนินการแก้ปัญหาและจัดการการพิจารณาใบอนุญาตโรงงาน (รง. 4) ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อให้เกิดความสะดวก และรวดเร็วในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน ตลอดจนหามาตรการในการลดระยะเวลาในการยื่นขอใบอนุญาตด้วย ซึ่งนายกฯ ได้เคยสั่งการใน ครม. แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า 

นายกฯ ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งวางแผนการท่องเที่ยวช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในด้านการบริการ สถานที่ท่องเที่ยว ความปลอดภัย ที่จะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยว และเกิดความประทับใจ จากที่คาดว่าช่วงปลายปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลผ่านโครงการ และอีเว้นท์ต่างๆ ที่จะเข้ามา

นายกฯ มอบหมายให้ กระทรวงการคลัง ศึกษาแนวทางการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Financial Hub ตามที่ นายกฯ ได้แถลงวิสัยทัศน์ Ignite Thailand เพื่อทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศชั้นนำในการจูงใจบริษัทการเงิน การธนาคาร การลงทุน เทคโนโลยี เข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยได้

เรื่องการเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน นายกฯ ขอให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงการดูแล ให้โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานที่ราชการ สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติ ตามที่ได้มีการแจ้งเตือนเรื่องพายุในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ นายกฯ ให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะหน่วยงานทหาร ช่วยลำเลียงน้ำจากแหล่งอื่นมาช่วยแก้ปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วงซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า หลายพื้นที่เจอภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้แหล่งน้ำดิบเพื่อทำน้ำประปาแห้งขอด โดยหากพื้นที่ไหนพอเจาะน้ำบาดาลได้ ขอให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งดำเนินการด้วย