Apple เผยโฉม iPad Air รุ่นใหม่ ขนาด 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว พลังชิป M2

08 พ.ค. 2567 | 01:20 น.

Apple ประกาศเปิดตัว iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ที่ออกแบบใหม่ และรุ่น 13 นิ้ว แบบใหม่หมดที่อัดฉีดพลังแรงโดยชิป M2 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ iPad Air มาพร้อมความสามารถด้าน AI, กล้องหน้าใหม่ในแนวนอน และ Wi-Fi ที่เร็วขึ้น พร้อมการรองรับ Apple Pencil Pro

วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ที่ออกแบบใหม่ และรุ่น 13 นิ้ว แบบใหม่หมดที่อัดฉีดพลังแรงโดยชิป M2 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ iPad Air มาในสองขนาด ได้แก่ รุ่น 11 นิ้ว ที่พกพาสะดวกสุดๆ และรุ่น 13 นิ้ว ที่มาพร้อมจอภาพที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้มีพื้นที่ในการทำงาน เรียนรู้ และเล่นสนุกได้มากขึ้น

Apple เผยโฉม iPad Air รุ่นใหม่ ขนาด 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว พลังชิป M2

โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมประสิทธิภาพและความสามารถสุดล้ำที่ทำให้ iPad Air ทั้งทรงพลังและอเนกประสงค์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ  และด้วยชิป M2 ยกระดับประสิทธิภาพของ iPad Air แบบครั้งใหญ่ด้วย CPU แบบ 8-core และ GPU แบบ 10-core ที่เร็วยิ่งขึ้น ชิป M2 เป็นชิปอันทรงพลังที่ได้รับการปรับปรุงให้เหนือกว่าชิป M1 ในหลายๆ ด้าน จึงเรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดสำหรับผู้ที่อัปเกรดจาก iPad Air รุ่นก่อนหน้า และเมื่อรวมกับแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่เร็วขึ้นด้วยแล้ว iPad Air ใหม่จึงเร็วกว่า iPad Air รุ่นก่อนหน้าที่มีชิป M1 เกือบ 50% สำหรับงานและการสร้างสรรค์ทุกประเภท และเมื่อเปรียบเทียบกับ iPad Air ที่ใช้ชิป A14 Bionic จะพบว่า iPad Air ใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า

Apple เผยโฉม iPad Air รุ่นใหม่ ขนาด 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว พลังชิป M2

โดยผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงความเร็วของชิป M2 ในทุกๆ สิ่งที่พวกเขาทำ ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจได้รวดเร็วกว่าที่เคยใน Affinity Designer ไปจนถึงการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ อย่าง Zenless Zone Zero

อุปกรณ์ที่ทรงพลังสำหรับ AI

ชิป M2 ทำให้ iPad Air ใหม่เป็นอุปกรณ์ที่น่าทึ่งสำหรับ AI เพราะมาพร้อม Neural Engine แบบ 16-core ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเร็วกว่าชิป M1 ถึง 40% ยิ่งเมื่อผนึกกำลังกับตัวเร่งความเร็ว ML ใน CPU และ GPU ที่ทรงพลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ ควบคู่ไปกับสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวมของ Apple Silicon ด้วยแล้ว iPad Air จึงมอบประสิทธิภาพด้าน AI ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งการใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพนี้นี่แหละที่ทำให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติอันชาญฉลาดของ iPadOS เช่น ค้นดูจากภาพ ดึงตัวแบบออกจากพื้นหลัง และข้อความในภาพ iPadOS ยังมีเฟรมเวิร์กขั้นสูง เช่น Core ML ที่ช่วยให้นักพัฒนาใช้ประโยชน์จาก Neural Engine เพื่อส่งมอบคุณสมบัติด้าน AI อันทรงพลังบนอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย

Apple เผยโฉม iPad Air รุ่นใหม่ ขนาด 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว พลังชิป M2

ระบบนิเวศที่หลากหลายของแอปยังมาพร้อมคุณสมบัติ AI สุดล้ำที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ เช่น ใช้เครื่องมือการปรับอัตโนมัติใน Photomator เพื่อปรับแต่งภาพถ่ายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียวโดยใช้โมเดล AI หรือวิเคราะห์ประสิทธิภาพการกีฬาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย Onform และความสามารถในการติดตามการเคลื่อนไหว ยิ่งไปกว่านั้น iPad Air ยังรองรับโซลูชันแบบคลาวด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานแอปเพื่อการทำงานและการสร้างสรรค์สุดล้ำที่อาศัยความสามารถของ AI อย่าง Microsoft Copilot สำหรับ Microsoft 365 และ Adobe Firefly ได้

กล้องหน้าในแนวนอน

วันนี้ กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP บน iPad Air ที่ออกแบบใหม่ได้ย้ายมาอยู่บนขอบแนวนอน โดยมาพร้อมคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง ซึ่งใช้การเรียนรู้ของระบบ (ML) เพื่อปรับให้ทุกคนอยู่ในเฟรมโดยอัตโนมัติ ต้องบอกเลยว่าตำแหน่งกล้องใหม่นี้ยอดเยี่ยมมาก เพราะอยู่ในแนวที่ผู้ใช้ iPad Air ใช้งานบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัวผ่าน FaceTime หรือเข้าร่วมการประชุมผ่านวิดีโอในขณะที่ใช้งานคีย์บอร์ดบน iPad Air ไปด้วย ขณะที่กล้องหลังไวด์ 12MP บน iPad Air นั้นสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงและวิดีโอระดับ 4K ที่มีรายละเอียดครบครันพร้อมการรองรับสโลว์โมชั่น ที่ 240 fps ไมโครโฟนคู่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับกล้องอย่างลงตัว โดยสามารถบันทึกเสียงจากกล้องที่ใช้งานอยู่ และลดเสียงรบกวนรอบข้างให้เหลือน้อยที่สุด iPad Air ใหม่ยังมีลำโพงสเตอริโอในแนวนอนพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่งอีกด้วย โดยรุ่น 13 นิ้วจะให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้นพร้อมเบสที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งเหมาะกับการฟังเพลงและดูวิดีโออย่างเพลิดเพลิน

พลังของ iPadOS

iPadOS 17 มาพร้อมการปรับแต่งในระดับใหม่ๆ และความอเนกประสงค์ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของ iPad Air ไปอีกขั้น

•            ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อคให้เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากจอภาพขนาด 11 นิ้ว หรือขนาด 13 นิ้วใหม่ที่ใหญ่ขึ้นบน iPad Air ไม่ว่าจะเป็นวอลเปเปอร์อันน่าทึ่ง วิธีสนุกๆ ในการแสดงภาพถ่ายที่ผู้ใช้ชื่นชอบ ตลอดจนฟอนต์และสีสันสื่ออารมณ์ เพื่อปรับแต่งรูปลักษณ์ของวันที่และเวลาในแบบที่ต้องการ

•            วิดเจ็ตแบบอินเทอร์แอ็คทีฟช่วยให้ผู้ใช้ทำอะไรกับข้อมูลได้มากกว่าแค่เหลือบมองด้วยการแตะเพียงหนึ่งครั้งเพื่อทำสิ่งที่ต้องการให้เสร็จได้ทันที

•            แอปข้อความมาพร้อมวิธีสนุกๆ ในการแสดงความเป็นตัวเอง รวมถึงประสบการณ์การใช้สติกเกอร์ด้วยสติกเกอร์อิโมจิ และความสามารถในการสร้าง Live Sticker โดยการดึงตัวแบบออกจากภาพถ่าย

•            ผู้ใช้สามารถฝากข้อความเสียงหรือวิดีโอเมื่อไม่มีคนรับสายใน FaceTime และยังใช้ประโยชน์จากกล้องและไมโครโฟนบน iPad Air ด้วยคุณสมบัติความต่อเนื่องของกล้องที่ให้ผู้ใช้เริ่มโทรวิดีโอคอลบน Apple TV ได้โดยตรง หรือเริ่มโทรบน iPad แล้วไปคุยต่อบน Apple TV

•            Freeform มาพร้อมเครื่องมือวาดภาพใหม่ๆ การรองรับคุณสมบัติการยกปลาย การเอียง และการปรับให้พอดีตามรูปร่าง ตลอดจนความสามารถในการเพิ่มเส้นเชื่อมต่อและรูปร่างใหม่ลงในวัตถุใดก็ได้ และคุณสมบัติติดตามไปด้วยที่จะช่วยแนะนำผู้ใช้ในการทำงานร่วมกันบนบอร์ด

•            แอปโน้ตช่วยให้ผู้ใช้มีวิธีใหม่ๆ ในการจัดระเบียบ อ่าน ใส่คำอธิบายประกอบ และทำงานร่วมกันบน PDF แถมยังช่วยให้การทำงานบน PDF ง่ายดายขึ้นด้วยคุณสมบัติการป้อนอัตโนมัติที่สามารถระบุช่องและกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มได้อย่างชาญฉลาด

•            คุณสมบัติตัวจัดการให้อยู่ตรงกลางช่วยให้ผู้ใช้ทำงานบนหน้าต่างหลายบานที่ทับซ้อนกันได้ในมุมมองเดียว ปรับขนาดหน้าต่าง แตะเพื่อสลับระหว่างแอป และอื่นๆ อีกมากมาย

•            นอกเหนือจากคุณสมบัติค้นดูจากภาพ ดึงตัวแบบออกจากพื้นหลัง และข้อความในภาพแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถด้าน AI เช่น คำบรรยายสดสำหรับคำบรรยายเสียงแบบเรียลไทม์ และคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงอันชาญฉลาด เช่น เสียงส่วนตัว

Apple เผยโฉม iPad Air รุ่นใหม่ ขนาด 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว พลังชิป M2

นอกจากนี้ iPad Air ยังมี Wi-Fi ที่เร็วยิ่งขึ้น และรองรับ 5G ที่เร็วสุดแรงในรุ่นเซลลูลาร์ ผู้ใช้จึงต่อติดกับทุกเรื่องได้ทุกที่ทุกเวลา และด้วยดีไซน์ที่พกพาสะดวก แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน จอภาพ Liquid Retina ที่สวยสดงดงาม ตลอดจนการรองรับ Apple Pencil Pro, Apple Pencil (USB-C) และ Magic Keyboard ผู้ใช้จึงมีพลังในการทำงานและสร้างสรรค์ได้มากกว่าที่เคยด้วย iPad Air ครั้งนี้ iPad Air ใหม่มีให้เลือกในสีฟ้าและสีม่วงใหม่ พร้อมด้วยสีสตาร์ไลท์และสีเทาสเปซเกรย์ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ยังคงมีราคาเริ่มต้น 27,900 บาท และ iPad Air รุ่น 13 นิ้ว มีราคา 29,900 บาท ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อ iPad Air ใหม่ได้เร็วๆนี้

นายบ็อบ บอร์เชอร์ส   (Bob Borchers) รองประธานฝ่าย Product Marketing ของ Apple กล่าวว่าผู้ใช้จำนวนมาก ตั้งแต่นักศึกษา คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และอีกมากมายต่างชื่นชอบ iPad Air ในด้านของประสิทธิภาพ ความสะดวกในการพกพา และความอเนกประสงค์ ทั้งหมดนี้ในราคาที่เอื้อมถึงได้ และวันนี้ iPad Air ยังยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เปิดตัว iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ที่ออกแบบใหม่ และรุ่น 13 นิ้ว แบบใหม่หมด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีให้เลือกในสองขนาด การผสมผสานระหว่างจอภาพ Liquid Retina ที่สวยสดงดงาม ประสิทธิภาพระดับปรากฏการณ์ของชิป M2, ความสามารถด้าน AI ที่น่าทึ่ง และดีไซน์สีสันสดใสที่พกพาสะดวกพร้อมการรองรับอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ ทำให้ iPad Air ทั้งทรงพลังและอเนกประสงค์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ”

Apple เผยโฉม iPad Air รุ่นใหม่ ขนาด 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว พลังชิป M2

ราคาและการวางจำหน่าย

•            ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อ iPad Air ใหม่พร้อมชิป M2 ได้เร็วๆนี้ ที่เว็บไซต์ Apple และแอป Apple Store

•            iPad Air รุ่น 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ใหม่ จะมีให้เลือกในสีฟ้า สีม่วง สีสตาร์ไลท์ และสีเทาสเปซเกรย์ในรุ่นความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB

•            iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 29,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular iPad Air รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 35,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular

•            ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ iPad Air รุ่น 11 นิ้วใหม่อยู่ที่ 21,900 บาท และสำหรับ iPad Air รุ่น 13 นิ้ว อยู่ที่ 28,000 บาท ราคาส่งเสริมการศึกษาสามารถใช้ได้กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือเพิ่งเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและผู้ปกครอง รวมถึงอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้สอนแบบโฮมสคูลในทุกระดับ