สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า รัฐบาลเดนมาร์กได้ประกาศแผนเกณฑ์ผู้หญิงเข้ารับราชการทหารตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านกลาโหม และบรรลุเป้าหมายขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ด้วยการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
นางเมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก กล่าวว่า "เราไม่ได้เพิ่มกำลังพลเพราะเราต้องการทำสงคราม แต่เป็นเพราะเราต้องการหลีกเลี่ยงสงคราม" โดยความตึงเครียดในยุโรปพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนก.พ.2565
นางเฟรเดอริกเซนเปิดเผยแผนการปฏิรูปเมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) โดยแสดงถึงเป้าหมายของรัฐบาลในการบรรลุความเท่าเทียมทางเพศอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน นายโทรลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเดนมาร์ก กล่าวว่า "การเกณฑ์ทหารที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงความเท่าเทียมทางเพศอย่างเต็มรูปแบบนั้น จะต้องมีส่วนในการแก้ไขปัญหาท้าทายด้านการป้องกันประเทศ การระดมพลระดับชาติ และการดูแลกองทัพของเรา"
ทั้งนี้ ผู้หญิงในเดนมาร์กสามารถเป็นอาสาสมัครรับราชการทหารได้ แต่ตอนนี้รัฐบาลมีแผนจะเริ่มเกณฑ์ผู้หญิงเข้ารับราชการทหารตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ทำให้เดนมาร์กเป็นประเทศที่ 3 ในยุโรป ถัดจากนอร์เวย์และสวีเดน ที่กำหนดให้ผู้หญิงเข้ารับราชการทหาร
เมื่อปีที่แล้ว เดนมาร์กมีผู้เข้ารับราชการทหาร 4,700 คน โดยประมาณ 25% เป็นผู้หญิง และจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 คนต่อปี
ปัจจุบันกองทัพของเดนมาร์กมีทหารประจำการในกองทัพประมาณ 20,000 นาย รวมถึงทหารอาชีพประมาณ 9,000 นาย
เดนมาร์กซึ่งมีประชากรทั้งหมดเกือบ 6 ล้านคน กำลังเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารจากปัจจุบัน 1.4% ของ GDP เป็น 2% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่นาโตกำหนดด้วย