ในห้วงเวลาเกือบ ๆ 10 ปีที่ผ่านมา กระแสคลื่น “ดิสรัปท์” ถาโถมเข้ามาในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดกันขนานใหญ่ มีไม่น้อยที่ต้องล้มหายตายจากไป แต่ด้วย “วิสัยทัศน์” ของผู้บริหาร DITTO ที่นอกจากจะยืนหยัดอยู่ได้อย่างองอาจแล้วยังสามารถแปรวิกฤติเป็นโอกาส และคว้าไว้ได้ทันท่วงที
นี่คือจุดเริ่มต้นธุรกิจการให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลอย่างครบวงจรในปัจจุบัน หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “การจัดการข้อมูลดิจิทัล”
คงไม่ผิดจากข้อเท็จจริงเท่าใดนัก หากจะบอกว่าในปัจจุบัน “DITTO” คือผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำการจัดการข้อมูลดิจิทัลของเมืองไทย สามารถยึดครองตลาดหน่วยงานราชการ รวมถึงภาคธุรกิจเอกชน บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายตั้งแต่ ธนาคาร ประกันภัย ค้าปลีกและอื่น ๆ อีกมากมาย
ธุรกิจการจัดการข้อมูลดิจิทัล จึงเป็นน่านน้ำใหม่ในธุรกิจของ DITTO ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบสถาปัตยกรรมข้อมูล (Data Architecture) เพื่อให้เกิดกระบวนการจัดการข้อมูลที่ดีตั้งแต่ต้นทาง ทั้งการจัดเก็บและนำไปใช้ บริการย้ายข้อมูล (Data Transfer) ไปยังตำแหน่งจัดเก็บข้อมูลที่ต้องการ รวมถึงดูแลความต่อเนื่องในการใช้งานข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับข้อมูลดิจิทัล ณ ปัจจุบัน และการจัดการกับข้อมูลอนาล็อกย้อนหลัง นำไปสู่การใช้งานข้อมูลแบบไฮบริดทั้งระบบให้เกิดประสิทธิภาพ และสามารถลดกระบวนการการทำงานขององค์กรให้เหลือน้อยที่สุด
ธุรกิจการจัดการข้อมูลดิจิทัลของ DITTO มีตั้งแต่การแปลงเอกสารเป็นรูปแบบดิจิทัล (Document Digitization) จัดทำสารบัญและดัชนีเพื่อความสะดวกในการค้นหา (Document Indexing) จัดเก็บอยู่ในระบบบริหารจัดการเอกสาร (Document Management System) หรือระบบจัดการข้อมูลในองค์กร (Enterprise Content Management: ECM) เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการตามกระบวนการการทำงานที่ผู้ใช้กำหนด บันทึกรายการในระบบบัญชี หรือระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร
ตลอดจนบริการพัฒนาซอฟต์แวร์ การจัดการเอกสารและบริหารระบบให้กับระบบธุรกิจ (BPO Service) ในการวิเคราะห์และให้คำแนะนำโซลูชั่นที่เหมาะสมกับการทำงาน พร้อมด้วยบริการแปลงเอกสารเข้าระบบดิจิทัล ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย
กลุ่มธุรกิจการจัดการข้อมูลดิจิทัล จึงเป็นกลุ่มที่จะสร้างรายได้หลักในปัจจุบันและในอนาคต ปัจจุบันครองสัดส่วนรายได้ของบริษัท 40% สัดส่วนลูกค้าภาคเอกชน 50% และราชการ 50%
เหนือสิ่งใดเพื่อให้การบริการครบวงจรยิ่งขึ้น DITTO จึงรุกเข้าสู่ธุรกิจ “ความปลอดภัยไซเบอร์” เบื้องต้นได้ร่วมมือกับพันธมิตรทำโครงการระบบ Cyber Security Observation Center (Hybrid CSOC) ของธนาคารกรุงไทย ซึ่ง DITTO เป็นแกนนำร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอีก 3 ราย เพื่อดูในเรื่องความปลอดภัยด้านไซเบอร์ให้กับการทำงานทุกระบบของธนาคาร
กล่าวได้ว่า DITTO ดำเนินธุรกิจการจัดการข้อมูลดิจิทัลครบวงจรอย่างแท้จริง เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิผลสูงสุดจะทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขัน รวมถึงความปลอดภัยของข้อมูลอีกด้วย
ผู้นำตลาดภาครัฐและเอกชน
บริษัท ฟรอส์ท แอนด์ ซัลลิวัน (ไทยแลนด์) เคยมีการสำรวจภาพรวมตลาดการจัดการข้อมูลดิจิทัลในปี พ.ศ. 2563 - 2568 ระบุว่าตลาดการจัดการข้อมูลดิจิทัลจะเติบโตจาก 729.1 ล้านบาท เป็น 11,886.6 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดภาครัฐซึ่งเป็นตลาดใหญ่มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของ “DITTO” ที่มีข้อได้เปรียบคู่แข่งเพราะมีประสบการณ์ในการทำงานภาครัฐมาก่อนใคร
สำหรับหน่วยงานราชการนั้น ศาลยุติธรรมเป็นองค์กรแรก ๆ ที่มีนโยบายปฏิวัติการจัดเก็บเอกสารใหม่ทั้งระบบจากกระดาษมาเป็นระบบดิจิทัล ซึ่ง DITTO ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บเอกสารเข้าสู่ระบบดิจิทัลในศาลทั่วประเทศทั้ง 293 ศาลและยังคงดำเนินการต่อเนื่องกระทั่งปัจจุบัน
“ฐกร รัตนกมลพร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน “DITTO” เปิดเผยว่า นอกจากศาลยุติธรรมแล้ว ยังมีหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานที่ใช้บริการ DITTO เช่น โครงการแปลงข้อมูลสัญญาหลังโฉนดของกรมที่ดินทั่วประเทศ 45 ล้านแปลง โดยเบื้องต้น DITTO ได้รับจัดสรรโฉนดเพื่อดำเนินงานราว 6 - 7 ล้านแปลงและจะเข้าไปประมูลในเฟสต่อ ๆ ไป และยังมีงานโครงการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้น
“ความภูมิใจหนึ่งคือโครงการของหอสมุดแห่งชาติ ในโครงการนำหนังสือที่อายุกว่า 50 - 60 ปีและใบลานเข้าสู่ระบบดิจิทัล เพื่อการสืบค้นแทนการนำต้นฉบับออกมาจากห้องสมุด” นายฐกรกล่าว
ส่วนภาคธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ มีบริษัท ห้างเซ็นทรัลดีพาทเมนท์สโตร์ จำกัด ไว้วางใจให้ DITTO เข้าไปดำเนินการระยะยาวถึง 7 ปี จากความเชี่ยวชาญที่ได้มา ทำให้ DITTO สามารถต่อยอดการพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการจัดการข้อมูลเพิ่มเติม และได้ขยายฐานลูกค้าสู่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีความต้องการย้ายข้อมูลจำนวนมากเข้าสู่ระบบดิจิทัล อาทิ ปูนซีเมนต์ไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา พรูเด็นเชียลประกันชีวิต และโรงพยาบาลหลายแห่ง
จุดแข็งการจัดการข้อมูลดิจิทัลของ DITTO
อะไรเป็นปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ “DITTO” ก้าวขึ้นสู่ผู้นำในธุรกิจการจัดการข้อมูลดิจิทัล ก็ต้องบอกว่าเพราะ DITTO ให้บริการโซลูชั่นครบวงจร ทั้งในขั้นตอนของการพัฒนาและติดตั้งระบบ ที่มีทีมบุคลากรพร้อมให้คำแนะนำ มีทีมเก็บข้อมูลและประเมินความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ยังมีทีมวิเคราะห์ทางธุรกิจ ทีมพัฒนาและให้การสนับสนุนระบบงานที่พร้อมปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์มาตรฐานที่มีอยู่ให้เหมาะกับลักษณะงานและการนำไปใช้ รวมถึงทีมปฏิบัติงานในการติดตั้งระบบ ย้ายข้อมูล และดูแลต่อเนื่องอีกด้วย
ที่สำคัญ DITTO มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ โดยมีการพัฒนาและยกระดับทักษะทีมงานอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีทีมพัฒนาระบบและทีมพร้อมปฏิบัติงานด้านไอทีราว 40 คน ทีมช่างบริการนับร้อยคน โดยยึดหลักการบริการด้วยความสม่ำเสมอและการตอบสนองที่รวดเร็ว จึงครองใจลูกค้ามาตลอด 2 ทศวรรษ
ดังนั้น ไม่ว่าหน่วยงานของรัฐหรือบริษัทเอกชน หากต้องการยกระดับการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถลดกระบวนการการทำงานขององค์กรให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว คล่องตัว ภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
DITTO คือผู้ที่ตอบโจทย์ดังกล่าว