นับถอยหลัง การเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับรัฐมนตรี และผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะมีเวทีของภาคเอกชน รวมผู้นำธุรกิจแห่งเอเชียแปซิฟิกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ในการประชุม APEC CEO Summit 2022 คู่ขนานกันไป / โดยภาคเอกชน ประกาศพร้อมทุกด้านเกือบ 100% แล้ว นอกจากจะมี ซีอีโอ จากทุกเขตเศรษฐกิจเข้าร่วมแล้ว ยังได้เชิญระดับผู้นำเข้าร่วมและตอบรับแล้วถึง 9 เขตเศรษฐกิจ
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธาน APEC CEO Summit 2022 ย้ำความพร้อมการจัดประชุมสุดยอด CEO ของภูมิภาคเอแปค มากกว่า 90% แล้ว ทั้งสถานที่การจัดประชุม การดูแลต้อนรับ การรักษาความปลอดภัย และการจัดเลี้ยงรับรอง โดยเฉพาะโปรแกรมการประชุมที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และสังคม เหลือเพียงรอการยืนยันที่ชัดเจนจากผู้นำเขตเศรษฐกิจ ที่ภาคเอกชน ได้เชิญเข้าร่วมงาน รวม 13 เขตเศรษฐกิจ
โดยมีนายกรัฐมนตรีของไทย ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ และเบื้องต้นมี 9 ประเทศตอบรับเข้าร่วม โดยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว ได้แก่ เปรู / ชิลี / เวียดนาม / ฟิลิปปินส์ และนิวซีแลนด์ และมีแนวโน้มที่ดีมนการตอบรับทางวาจา คือ จีน / อินโดนีเซีย / แคนาดา และที่สำคัญคือ สหรัฐอเมริกาที่จะเป็นเจ้าภาพเอเปคปีหน้า โดยเฉพาะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ตอบรับขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์แล้ว รวมทั้งมีผู้นำองค์กรระดับโลก และผู้นำทางความคิด และ CEO ของทุกเขตเศรษฐกิจเข้าร่วมการประชุมและแสดงวิสัยทัศน์
ส่วนบทบาทในการเป็นเจ้าภาพในปีนี้ มีนัยยะที่น่าสนใจในด้านสถานการณ์ ด้วยภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งภาวะการขาดแคลนอาหาร / วิกฤตพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อ หรือ การฟื้นตัวจากโควิด 19 ซึ่ง APEC CEO Summit จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนทิศทางครั้งสำคัญของโลก หรือ เรียกได้ว่าเป็นเวทีแรกๆ ที่ได้มาประชุมแบบพบปะ และเป็นช่วงสำคัญที่หลายเขตเศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนผู้นำ จึงถือเป็นโอกาสดีของไทยในการพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ้นสุด และเริ่มมีการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยก้าวข้ามประเด็นทางการเมือง
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. บอกว่า เวทีดังกล่าว จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย สิ่งที่ดึงดูดลงทุน ความต้องการต่างๆ ผู้นำจากทุกประเทศรวมถึงผู้นำทางธุรกิจ จะได้มีโอกาสสะท้อนความต้องการ และความพร้อมในเรื่องของการแก้ไขกฎหมายกฎระเบียบทั้งของไทย และประเทศอื่นๆ ให้สามารถเชื่อมโยงได้ทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจถือเป็นประโยชน์ร่วมกัน
โดยเฉพาะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้เร็วที่สุดนอกจากการท่องเที่ยว คือการลงทุนจากต่างประเทศ ที่มีความจำเป็น ซึ่งการถือครองอสังหาริมทรัพย์ จะทำให้การเข้ามาลงทุนเร็วขึ้น แต่ความกังวลของประชาชน มองว่าเป็นมาตรการขายชาติ ซึ่งเอกชนเองจะทำหน้าที่ในการให้สถาบันการศึกษาไปศึกษาถึง ประโยชน์ที่ประเทศไทยและประชาชนจะได้ รวมถึงข้อเสียอะไร โดยผลการศึกษาน่าจะแล้วเสร็จหลังการประชุมเอเปค ทั้งนี้เชื่อว่า ประเด็นที่รัฐบาล พยายามขับเคลื่อนอยู่ ไม่ใช่การขายชาติ และมั่นใจว่าทุกรัฐบาลต้องการที่จะขับเคลื่อนประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น