นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) หรือ APEC 2022 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
รัฐบาลจะมีการเตรียมต้อนรับผู้นำจาก 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน และ ซาอุดิอาระเบีย ที่จะยกคณะร่วมหารือกับไทยแบบเต็มคณะที่ทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่การประชุม APEC ผู้นำ 15 เขตเศรษฐกิจได้ตอบรับเข้าร่วมประชุมเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 5 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก และไต้หวัน จะส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม ส่วนรัสเซียยังรอยืนยัน
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมเอเปค ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ จะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 พ.ย.65 เป็นต้นไป โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเปิดนิทรรศการ BCG ซึ่งไทยพยายามนำเสนอเรื่องนี้ นอกเหนือจากหัวข้อหลัก เรื่อง "การเปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล" ซึ่งปัจจุบันโลกยังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห่วงโซ่อุปทานที่มีอยู่ รวมถึงปัญหาภูมิอากาศ เรื่องความสัมพันธ์ของประเทศมหาอำนาจต่างๆ ปัญหาความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะแสดงบทบาททิศทางเบื้องต้น และขอร่วมมือประเทศต่างๆ เพื่อพยายามตอบโจทย์ประเด็นปัญหาต่างๆ ให้คลี่คลายโดยเร็ว
"การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งสำคัญที่จะมีการพบหน้ากันระหว่างผู้นำจากหลายเขตเศรษฐกิจครั้งแรกในรอบ 3 ปี" นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า ช่วงจากนี้ไปขอให้คนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้ต่างชาติที่เข้ามาได้เห็นศักยภาพของประเทศไทย และแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถ และเพื่อจูงใจให้เข้ามาลงทุน และในขณะนี้ ทางรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในการจัดงานไปแล้วกว่า 90% มีการเตรียมสถานการณ์ต่างๆ ตั้งแต่การต้อนรับผู้นำและการประชุมในสถานที่ต่างๆ และการเตรียมการให้ทุกประเทศเกิดความประทับใจ ทั้งเรื่องการจัดงานกาล่าร์ดินเนอร์ ของที่ระลึก และโปรแกรมสำหรับคู่สมรสด้วย
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย รัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อม และมีการซักซ้อมความเข้าใจไว้แล้ว
นอกจากนี้ ในวันที่ 10-13 พ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี ยังมีกำหนดการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมผู้นำร่วมแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ และจะมีการประชุมคู่เจรจากับจีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา และจะมีการประชุมอาเซียน+3 ร่วมกับจีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น และมีการประชุมเอเชียตะวันออก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการหารือกับภาคส่วนต่างๆ ของอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนรัฐสภา เยาวชน และภาคธุรกิจด้วย