ประชุมเอเปค2022 ดัน FTAAP ใหญ่ที่สุดของโลกเดินหน้า
เอเปค2022 ดัน FTAAP ใหญ่ที่สุดของโลกเดินหน้า ที่ประชุม SOM เตรียมเปิดฉาก เจรจาเขตการค้าเสรี FTAAP ให้เดินหน้าภายใน5ปี หวังสร้างการค้าการลงทุนร่วมกัน
นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดี กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 1 เริ่มต้นหารือเพื่อผลักดันการขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ FTAAP หวังให้เป็นเขตเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นกลไกสำคัญ ขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ และหนุนการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในหมู่สมาชิก การประชุมในครั้งนี้ เตรียมเสนอต่อเวทีระดับรัฐมนตรี และเสนอเวทีผู้นำเอเปค เมื่อระดับผู้นำไฟเขียว จะทำให้การเจรจาระดับเจ้าหน้าที่หารือรายละเอียด นำไปสู่การเจรจาการลดภาษีระหว่างกลุ่มเอเปคเป็นรายสินค้าได้มากขึ้น จึงหวังช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตหลายมิติ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาว พร้อมแจงรายละเอียดของการประชุมระดับรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้(15พ.ย.)
เป้าหมายการหารือเขตการค้าเสรีกลุ่มเอเปค หรือ FTAAP นับเป็นความร่วมมือพหุภาคีที่สำคัญของโลกทั้งในเชิงเศรษฐกิจ มีมูลค่า GDP รวมกัน 61% ของทั้งโลก มีประชากรสัดส่วน 1 ใน 3 ของพลเมืองทั้งโลก จึงมีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางการค้า การลงทุน จากข้อมูลของ World Bank ในปี 2564 พบว่า มูลค่า GDP ของสมาชิก APEC เท่ากับ 59.4 ล้านล้านดอลลาร์ สัดส่วนสูงถึง 61% ของ GDP ยักษ์ใหญ่ที่มีขนาดทางเศรษฐกิจ 3 ลำดับแรกของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ส่วนไทยมีขนาดทางเศรษฐกิจอยู่ในลำดับที่ 11 (GDP เท่ากับ 5 แสนล้านดอลลาร์)
สินค้าไทยส่งออกไปยังเอเปค 4 อันดับแรก ถูกส่งออกไปยัง APEC ทั้งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ฯ ผลิตป้อนตลาด APEC ถึง 77.3% ยานยนต์ฯ (57.5%) ผลิตภัณฑ์ยาง (72.5%) และพลาสติก (72.8%) นับว่าบทบาทของการค้าระหว่างกันในกลุ่มเอเปคสูงมาก
นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ ไทยเตรียมโชว์ ซอล์ฟเพาเวอร์ จัดสาธิตกีฬามวยไทย โดยนายบัวขาว บัญชาเมฆ และทีมงานลานนาไฟท์ติ้ง เพื่อโชว์การไหว้ครู แม่ไม้มวยไทย ศิลปะป้องกันตัว และน้องไออุ่น แชมป์เยาวชนหญิงทีมชาติไทย ร่วมสาธิตการชกมวยไทย
ขณะที่สำนักงานอีอีซี ให้การต้อนรับ สมาคมธุรกิจแห่งเยอรมนีฯ (OAV) เพื่อดึงทุนจากบริษัทชั้นนำจากยุโรป 600 ราย ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้เศรษฐกิจ BCG ที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนาบุคลากร แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างโอกาสลงทุนพื้นที่อีอีซีได้ตามเป้า 2.2 ล้านล้านในปี 2570 ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางบก เรือ อากาศ ของภูมิภาคในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้(16พ.ย.)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือกับนายนิชิมูระ ยาสุโทชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ