เห็นได้ชัดว่า การระบาดของโควิด-19 (COVID-19) ส่งผลให้พฤติกรรมของมนุษย์เปลี่ยนไป สืบเนื่องจากการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) หนึ่งในมาตรการป้องกันตัวเองที่สำคัญ
ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน และใช้เวลาอยู่ที่บ้านร่วมกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในเรื่องต่าง ๆ การติดต่อสื่อสารเพื่อการอุปโภคบริโภคและบันเทิง จนชีวิตบนโลกดิจิทัลกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)
ในยุค COVID-19 นี้ หากเราต้องใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่นี้ต่อไปเรื่อย ๆ โลกของเราก็คงเข้าสู่โลก “เมทาเวิร์ส” (Metaverse) โลกที่เชื่อมระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือนจริง หรือโลกดิจิทัล เหมือนในภาพยนตร์เรื่อง The Matrix (1999), Ghost in the Shell (2017) หรือ Ready Player One (2018) ที่มนุษย์สามารถเข้าไปใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ขออธิบายความหมายของ “Metaverse” ก่อนว่า คำนี้เป็นคำที่บัญญัติขึ้นครั้งแรกในนวนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง เรื่อง Snow Crash ของนีล สตีเฟนสัน (Neal Stephenson) ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1992
ในนวนิยายพูดถึง พื้นที่เสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันคือ แพลตฟอร์มที่รวมโลกเสมือนจริง โลกดิจิทัลทั้งหมด เชื่อมต่อเข้ากับโลกความเป็นจริง
ในลักษณะเดียวกับที่อินเทอร์เน็ต เชื่อมต่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ แต่จะเป็นในรูปแบบสามมิติ มนุษย์สามารถโต้ตอบ เข้าไปมีส่วนร่วมผ่านหน้าจอ ผ่านการสวมแว่นวีอาร์ (Virtual Reality) และอุปกรณ์วีอาร์อื่น ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนจริง
โดยมีระบบเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและขับเคลื่อนโลกนี้ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เราพูดถึงนี้ไม่ใช่แค่ เทคโนโลยีระบบอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) แต่เป็นเทคโนโลยีที่เหนือกว่านั้น เป็นเทคโนโลยีที่อาจยังมาไม่ถึง เพื่อให้เห็นภาพ ให้นึกถึงเทคโนโลยีในเรื่อง The Matrix ตามที่มอร์เฟียส (Morpheus) หนึ่งในตัวละครหลักอธิบายไว้ว่า
“เมทริกซ์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เทคโนโลยีที่อยู่รอบๆ ตัวเรา รวมถึงตอนนี้ มันอยู่ในห้อง ๆ นี้
คุณมองเห็นมันเมื่อคุณมองออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อคุณเปิดโทรทัศน์
คุณรู้สึกได้ตอนคุณไปทำงาน...ตอนคุณไปโบสถ์...ตอนคุณจ่ายภาษี
มันคือโลกที่ฉุดรั้งคุณไว้ให้มืดบอดจากความเป็นจริง…”
แต่โลก Metaverse คงไม่ได้มืดบอด ต้องแอ่นตัวหลบกระสุน หนีการไล่ล่าเหมือนในภาพยนตร์ The Matrix หรือ Ready
Player One อย่างเดียว เพราะโลก Metaverse ที่นักวิทยาศาสตร์ โปรแกรเมอร์ ชาวไอที หรือเนิร์ดจินตนาการไว้ คือ โลกแห่งอนาคตที่แท้จริง โลกที่คนและหุ่นยนต์เดินร่วมกันบนท้องถนน โลกที่เทคโนโลยีเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ 5 มีความสำคัญรองจาก 1. อาหาร 2. ยารักษาโรค 3. ที่อยู่อาศัย 4. เทคโนโลยี และ 5. เครื่องนุ่งห่ม
ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บางทีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่กำลังขับเคลื่อนให้มนุษย์ก้าวเข้าสู่โลก Metaverse คือ การระบาดของ COVID-19 พฤติกรรมทางสังคมออนไลน์กระแสหลัก เปลี่ยนจากการแบ่งปันรูปถ่ายแมว
ไปเป็นการครอบคลุมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้คนนอกบ้าน พฤติกรรมออนไลน์ของหนุ่มสาวรุ่นมิลเลนเนียล (Millennials) และเด็กเจนซี (Gen Z) ได้แทรกซึมไปยังทุกกลุ่มอายุและทุกกลุ่มประชากร
รวมทั้งคนยุคเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรืออายุมากกว่านั้น ก็ถูกบังคับให้ยอมรับเทคโนโลยีเข้าไปในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น การลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิต่างๆ จากทางภาครัฐในช่วงการระบาดของ COVID-19 การติดต่อสื่อสารกับลูกหลานที่อยู่ห่างออกไป เป็นต้น
แม้ในวันที่เรากลับไปเดินทางได้อย่างอิสระ หรือได้ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติอีกครั้ง ทักษะและพฤติกรรมใหม่ที่เชื่อมโยงผ่านโลกดิจิทัลเหล่านี้จะไม่ลดลง และอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
(อ่านต่อฉบับหน้า)
หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 41 ฉบับที่ 3,700 วันที่ 29 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564