ชัยชนะของทีมชาติไทยต่อทีมชาติอินโดนีเซีย ด้วยประตู 4:0 ในการแข่งขันฟุตบอลอาเซียนคัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ถือเป็นความสุขที่อิ่มเอมใจของคนไทยทั้งประเทศครั้งแรกของปี 2564
เพราะในห้วง 1 ขวบปีที่ผ่านมา คนไทยต่างจมอยู่ในห้วงของความทุกข์จากโรคไวรัสวายร้าย จนนำมาซึ่งการควบคุมการจัดกิจกรรมต่างๆ จนถึงการปิดเประเทศ นำมาซึ่งปัญหามรสุมทางเศรษฐกิจ
ตลอดจนความขัดแย้งทางการเมืองก็หนักหนาสาหัส กัดกินชีวิตของผู้คน ที่แตกเป็นฝักเป็นฝ่าย ชนิดที่ไม่อาจสมานแผลของความขัดแย้งในเวลาอันสั้น
แน่นอนว่าการที่ทีมชาติไทยคว้าชัยชนะเหนืออินโดนีเซีย ในนัดแรก อาจไม่ได้หมายถึงการได้แชมป์ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2020 เพราะยังมีการแข่งขันอีกนัดที่รออยู่ในวันที่ 1 มกราคม 2565 แต่การที่ไทยยิงประตูได้ 4 ประตูนั้น เป็นการยากที่อินโดนีเซียจะมาไล่ยิงคืน
ยิ่งหากนัดชิงชนะเลิศไทยชนะอินโดนีเซีย และมีรูปเกมการเล่นเหมือนนัดที่ผ่านมา รับรองว่าคนไทยจะมีความสุขล้นปรี่ในการเริ่มต้นของศักราชใหม่ปี 2565
ขนาดนายกรัฐมนตรีของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังออกมาชื่นชมผลงานนักบอลทีมชาติไทย ที่เอาชนะอินโดนีเซีย ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน AFF Suzuki Cup 2020 และ ออกมาเชิญชวนชาวไทยร่วมเป็นกำลังใจให้ทีมชาติบอลไทยในการแข่งขันวันที่ 1 ม.ค. ด้วย
ขอขอบใจนักฟุตบอลทีมชาติไทย โค้ช สต๊าฟ ทุกคน ที่รวมพลังกันส่งมอบความสุขให้กับคนไทย ขอบคุณโค้ชมาโน โพลกิ้ง ชาวบราซิลที่ดึงเอาพลังของนักฟุตบอลทีมชาติไทยออกมา
ขอบใจ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, เอเลียส ดอเลาะ, สุภโชค สารชาติ, ธีรศิลป์ แดงดา, บดินทร์ ผาลา, ฟิลิป โรลเลอร์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ทริสตอง โด, กฤษดา กาแมน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ปกเกล้า อนันต์, ศุภชัย ใจเด็ด, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ , กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ฯลฯ ....ขอบอกว่าพวกคุณทั้งหลายทำให้ประชาชนคนไทยมีความสุขมากที่สุด มากจนมิอาจบอกว่า สุขแค่ไหน หลังจากที่ระทมใจมากับกับดักการเมือง กับดักของโรคร้าย กับดังความขัดแย้งในประเทศ
ขอพวกเราปรบมือให้กับนักฟุตบอล สต๊าฟทีมชาติไทยดังๆ หน่อยครับ
และขอให้พวกเราช่วยส่งเสียงไปยังส.ส.ผู้แทนปวงชนชาวไทย นักการเมือง ผู้บริหารประเทศ ไปขบคิดวิธีการที่จะทำให้คนไทยมีความสุขแบบล้นปรี่กันหน่อยว่า ทำได้หรือไม่!
กลับมาเรื่องเศรษฐกิจกันบ้าง มีคนถามว่าปีหน้าไทยจะเจออะไรบ้างผมอยากให้คนทำธุรกิจพิจารณาเรื่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(Regional Comprehensive Economic Partnership:RCEP) ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตของการค้าและการลงทุนในภูมิภาคให้ดี เพราะ RCEP มีผลบังคับใช้ทันทีใน 1 มกราคม 2565
จีนจะลดภาษีศุลกากรให้กับสินค้าหลายประเภทที่นำเข้าจาก 9 ประเทศ เริ่มวันที่ 1 มกราคม ตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตของการค้าและการลงทุนในภูมิภาค
9 ประเทศ ที่จะลดภาษีทันที ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บรูไน กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม
นั่นจะส่งผลให้กว่า 90% ของการค้าสินค้าระหว่างสมาชิก RCEP จะปลอดภาษี และจะได้รับผลบวกกับโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ
ความตกลง RCEP จะเป็นความตกลงการค้าเสรี (FTA) ฉบับที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 10 ประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีประชากรรวมกัน 2,300 ล้านคน (30.2% ของประชากรโลก
จีดีพีรวมมูลค่า 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (33.6% ของ GDP โลก)
มูลค่าการค้ารวม 10.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (30.3% ของมูลค่าการค้าของโลก)
ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากความตกลง RCEP แบบทันทีคือ สมาชิก RCEP จะยกเลิกภาษีนำเข้าที่เก็บกับสินค้าไทย 39,366 รายการ จะทำการลดภาษีเหลือ 0% ทันที 29,891 รายการ
ขณะที่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะลดและยกเลิกภาษีศุลกากรกับสินค้าที่ส่งออกจากไทย เพิ่มเติมจาก FTA ที่มีอยู่ในสินค้า เช่น ผลไม้สดและแปรรูป สินค้าประมง น้ำผลไม้ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ พลาสติก เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ
โอกาสมาพร้อมกับวิกฤตเช่นกันเพราะสินค้าของประเทศสมาชิกที่จะส่งมาค้าขายกับไทยก็จะเป็น 0% เช่นเดียวกัน ใครไม่ติดตามไม่เฝ้านระวัง “ต้นทุนราคาที่ต่ำ” จะกัดกินก้นเธอ
ประการต่อมา ใครที่ทำธุรกิจอยู่ให้ระมัดระวังตัวให้ดีวิกฤติโควิด-19 จะทำให้บริษัทผีดิบในไทยเพิ่มขึ้นอีกมาก ผู้รู้ ฟันด์ แมเนเจอร์ ประเมินให้ผมฟังว่าบริษัทผีดิบในไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 9.1% ในปี 2019 ไปเป็นกว่า 16.0% ในปี 2022
กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มากที่สุดคือกลุ่มบริษัทขนาดเล็กที่สุดที่มีทรัพย์สินบริษัทเฉลี่ย 5 แสนบาท บริษัทกลุ่มนี้กว่า 30% จะกลายเป็น zombie firm ภายในปี 2022
บริษัทผีดิบ zombie firm ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธุรกิจหนึ่ง ที่เกิดขึ้นได้เมื่อธุรกิจเกิดภาวะ “หนี้สินล้นพ้นตัว”
zombie firm คือ “บริษัทที่ไม่มีความสามารถในการทำกำไรทั้งในปัจจุบันและอนาคตมากเพียงพอ ที่จะชำระหนี้สินที่บริษัทมีได้อีกเป็นเวลานาน”
เป็นบริษัทที่กิจการตกต่ำ จนไม่สามารถหากำไรมาใช้หนี้ได้แล้วสิ่งเหล่านี้จะมาหาเคาะประตูบ้านเราแน่นอน
ขอให้รับมือกับปัญหาด้วยปัญหาและมีสตินะครับ!
สวัสดีปีใหม่ขอให้คนไทยมีความสุข ปลอดโรคปลอดภัยนะครับ