ลูกอิสานแห่งลุ่มน้ำอิยะวดี 10

14 มี.ค. 2565 | 00:00 น.

คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

ในโลกของการค้าขายในต่างแดน ที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของเรา มีอะไรที่สลับซับซ้อนมาก บางครั้งเรื่องที่เราเองก็คาดไม่ถึงก็ต้องมาประสบพบเจอ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าไม่ยาก จะมีก็แต่คนที่อยู่แนวหน้าเท่านั้นที่จะรู้ เพราะเห็นมีแต่คนพูดว่า “Go Inter” ก็คงนึกภาพไปว่าสวยงามดีไปเสียทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีข้างหลังภาพที่ซ่อนเงื่อนอยู่อีกเยอะมาก ชีวิตของคุณศักดิ์หรือใครๆ ที่ทำมาหากินอยู่ต่างแดน ก็คงไม่แตกต่างกันสักเท่าใดครับ
 

สินค้าพอเริ่มที่จะมีชื่อเสียง ก็เริ่มมีลูกค้าที่ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่าย ทยอยกันเดินเข้ามาหา ในฐานะของเจ้าของกิจการ ก็ย่อมมีความยินดีปรีดาเป็นธรรมดา ในขณะที่คนที่เข้ามานั้น ก็มีบางคนที่เราคาดไม่ถึง คุณศักดิ์เล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีผู้นำกองกำลังชาติพันธุ์ทางชายแดน (เพื่อความปลอดภัย ขอสงวนชื่อของกองกำลังนั้น) ได้ส่งคนเข้ามาเจรจา ขอให้ช่วยเข้าไปส่งเสริมการเกษตรในเขตปกครองของเขา คุณศักดิ์ก็ดีใจมาก ที่มีผู้มีอำนาจเข้ามาหา นึกไปเองว่าน่าจะเป็นเพราะสินค้าของตนเองมีคุณภาพดี จึงได้โด่งดังจนกระทั่งไปเข้าหูเข้าตาเขา จึงรีบตอบตกลงที่จะเดินทางไปเยี่ยมชมและให้คำปรึกษา เพื่อที่จะส่งเสริมการเพาะปลูกในเขตของเขา 
 

การเดินทางไปยังเขตของกองกำลังชาติพันธุ์ในยุคนั้น ค่อนข้างจะลำบากมาก เพราะจะต้องต่อรถหลายครั้ง อีกทั้งถนนหนทางก็ทุรกันดารมาก อีกทั้งตัวคุณศักดิ์เองก็ไม่ทราบว่านั่นคืออันตราย เพราะกำลังสนุกกับการค้าขาย จึงไม่รู้สึกว่ายากลำบาก หลังจากที่ได้พบกับผู้นำกลุ่มกองกำลัง ก็ได้เจรจากันว่าจะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ และหาพืชที่เหมาะสมกับดินและภูมิประเทศนั้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เขตอิทธิพลของกองกำลัง ได้มีโอกาสในการทำมาหากิน ส่วนพืชที่จะปลูก ก็คิดกันว่าจะเพาะปลูกอะไรกันดี ที่สามารถมีคนรับซื้อได้อย่างไม่มีขีดจำกัด คุณศักดิ์ก็นำเสนอให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่มีข้อแม้ว่าทางกองกำลังจะต้องจ่ายค่าตอบแทนเมล็ดพันธุ์พืชเป็นเงินสดเท่านั้น ซึ่งเขาก็ยินยอมตามเงื่อนไขโดยไม่มีข้อกังขา
 

หลังจากนั้นจึงเริ่มสอนให้ชาวบ้านในเขตอิทธิพล ทำการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในฤดูกาลแรกก็ดำเนินการไปได้ด้วยดี ชื่อเสียงของเมล็ดพันธุ์ของคุณศักดิ์ในเขตนั้น ก็เริ่มโด่งดังขึ้นมา แต่อนิจจาไม่เที่ยงแท้ เข้าสู่ปีที่สี่-ห้า ราคาของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เริ่มตกต่ำ เงินค่าเมล็ดพันธุ์ก็เริ่มมีการผลัดผ่อน ยิ่งถลำยิ่งลึก การเรียกเก็บเงินเริ่มมีปัญหา คุณศักดิ์เองก็ได้ทวงถามค่าเมล็ดพันธุ์ไปหลายครั้ง ผู้นำกองกำลังก็บ่ายเบี่ยง
 

สุดท้ายก็กลายเป็นดินพอกหางหมู ทบหัวทบท้าย ครั้งนั้นได้เกิดหนี้เสียเข้ามาในบริษัทหลายตังค์เลยทีเดียว คุณศักดิ์จึงได้ขออนุญาตเลิกส่งเมล็ดพันธุ์ให้อีกต่อไป ซึ่งต่อมาทางผู้นำกองกำลังก็พยายามส่งคนมาขอเจรจาใหม่อีกครั้ง คุณศักดิ์เล่าว่า “ผมตัดสินใจแล้วว่า จะทำตัวเป็นม้า ที่เดินหน้าเล็มหญ้า จะไม่ทำตัวเป็นไก่ ที่ถอยหลังจิกเมล็ดข้าวเปลือกอีกต่อไป อีกทั้งครั้งนี้ยังโชคดี ที่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต นับว่าฟ้ายังคุ้มครองเรา”
 

การค้า-ขายในทางปกติ ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป อีกสิ่งหนึ่งที่คาดไม่ถึง คือการค้า-ขายในประเทศเมียนมา หากจะทำให้ใหญ่ขึ้น จะต้องมีการปล่อยให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายใหญ่ หรือจำพวกผู้ค้าส่ง จึงจะมียอดขายจำนวนมากขึ้น ซึ่งบริษัทของคุณศักดิ์เอง พอสินค้าเริ่มติดตลาด ก็เริ่มมีการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้ามากขึ้นเป็นเงาตามตัว จนกระทั่งวันหนึ่ง เงินทุนเริ่มร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ คุณศักดิ์จึงต้องรีบเดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯ เพื่อเริ่มเข้าหาสถาบันการเงิน เพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนสินเชื่อให้
 

แต่ในยุคนั้นเป็นยุคที่ประเทศเมียนมา ได้ถูกชาติตะวันตกแซงชั่นอยู่ ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปก็ไม่มีธนาคารไหนปล่อยสินเชื่อให้ เพราะตัวคุณศักดิ์เอง ก็เป็นแค่บุคคลทั่วไป ที่ไม่มีใครรู้จักในวงการธุรกิจ อีกทั้งที่ประเทศไทยคุณศักดิ์ก็ไม่มีกิจการใดๆ พอที่จะสร้างความเชื่อถือให้แก่ธนาคารได้ จึงทำให้คุณศักดิ์มองไปทางไหน ก็พบแต่หนทางที่มืดมนไปหมด การที่จะไปขอเงินจากครอบครัว ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะสถานะทางบ้านคุณศักดิ์เอง ก็ไม่อยู่ในฐานะที่ช่วยเหลือได้ หรือการขอเงินกู้นอกระบบ คุณศักดิ์ก็ไม่กล้าทำ เพราะอันตรายจะเข้ามาถึงตัวนั่นเอง
 

สุดท้ายคุณศักดิ์ก็ต้องเดินทางกลับไปยังประเทศเมียนมา ครั้งนั้นจึงทำให้คุณศักดิ์เข้าใจถึงการ "เดินสะดุดขาตนเองล้ม” นั้นเป็นอย่างไร? เพราะการขายดีจนเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอที่จะดำเนินการได้ เหตุผลเกิดจากการที่ไม่ได้ทำการคาดการณ์ทางการเงินในอนาคต หรือ Cash Flow Forecast ซึ่งโดยทั่วไปในทุกธุรกิจ การจัดการทางด้านการเงิน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ชี้เป็นชี้ตายให้แก่ธุรกิจนั้นๆ หากไม่มีการจัดการที่ดีพอ แม้จะมียอดขายที่ดี แต่เงินทุนหมุนเวียนไม่ถึง ก็สามารถที่จะเดินสะดุดขาตัวเองล้มได้ง่ายๆ เลยทีเดียว บทเรียนครั้งนั้นทำให้อดีตหัวหน้าพนักงานฝ่ายขายอย่างคุณศักดิ์ ไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ จึงเป็นบทเรียนที่ล้ำค่าจริงๆ ครับ
 

อาทิตย์หน้าผมจะมาเล่าว่าคุณศักดิ์แก้ปัญหานี้ได้อย่างไรครับ โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ