ถึงเวลาให้พระแยกบัญชีส่วนตัว กับส่วนรวมได้แล้ว

19 เม.ย. 2565 | 00:00 น.

ถึงเวลาให้พระแยกบัญชีส่วนตัว กับส่วนรวมได้แล้ว : คอลัมน์สังฆานุสติ โดย... บาสก

เรื่องกินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา ภาษิตไทยที่บอกลักษณะคนร้าย ที่ไม่รู้คุณข้าวแดงแกงร้อนของเจ้าของบ้าน ที่ต้อนรับเลี้ยงดูดี แต่ภายหลังทรยศ หักหลัง จนเจ้าของบ้านเสียหายยังใช้ได้ เมื่อเทียบกับพฤติกรรมนายเนย ที่สมเด็จพระวันรัต เมตตาเลี้ยงดูดีมาก ถึงขนาดนั่งฉันข้าวในงานพิธี สมเด็จยังหยิบอาหาร อร่อยๆ ให้กินไปด้วยโดยไม่เคอะเขิน
 

เมื่อสมเด็จอาพาธ รักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็สวมบทขี้รดบนหลังคาโดยยักย้ายถ่ายเท เงินฝากในบัญชีธนาคาร ทั้งของสมเด็จเอง ของวัดอื่นและวัดบวร ไปแบบง่ายๆ แค่ใหัสมเด็จลงนามถอนเงินเพื่ออะไรและจำนวนเท่าไรไม่ทราบแต่ใส่ตัวเลข มาเข้าบัญชีของตน ดังที่ตำรวจให้ข้อมูลจากการสอบสวน และว่า นายเนยยังเปลี่ยนรหัส อิเล็กทรอนิกส์ แบงกิ้งในสมาร์ทโฟนของสมเด็จ ทำให้สามารถโอนเงินของสมเด็จในธนาคารผ่านสมาร์ทโฟนมาเป็นของตนได้สบาย

วันหนึ่งเจ้าสัวใหญ่สอบถามเช็คมูลค่าหลายสิบล้านบาท (ข่าวว่า25 ล้านบาท) ที่ถวายสมเด็จไปก่อนนั้นว่าเข้าบัญชีใคร ทางวัดว่าไม่ทราบ สอบพบว่าเข้าบัญชีนายเนย ความจึงแตก จึงตรวจสอบทรัพย์สินในกุฏิสมเด็จ พบว่าของมีค่าอันตรธานสิ้น


ท่านผู้อ่านคงทราบตามที่เป็นข่าวว่า นายเนยครอบครองรถหรูหลายคัน เงินสด เงินฝากธนาคาร คฤหาสน์ในโครงการบ้านหรู 2 หลังแต่ซื้อในนามญาติ นาฬิกายี่ห้อดัง กระเป๋าแบรนด์เนม อีกมาก สรุปว่ากินอยู่หรู ใช้ของแบบไฮโซ และมีรถหรูระดับเศรษฐีใช้ขับขี่หลายคัน

ตำรวจแจ้งข้อหาฉ้อโกง ลักทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร ใช้เอกสารสิทธิปลอม และเข้าข่ายฟอกเงิน
นายเนย ปฏิเสธว่าไม่ได้โกง แต่สมเด็จให้ด้วยเสน่หา
  

คำว่าให้ด้วยเสน่หา มันฟ้องว่า ถ้าเป็นดังนั้นสมเด็จได้เงินได้ทองจากไหน ทำไมจึงมากมายขนาดนั้น
  

เรื่องนี้มีเฉลยถึงที่มาของเงินของพระผู้ใหญ่ โดยผู้รู้ท่านหนึ่งวิเคราะห์ (ในรายการหนึ่ง) ซึ่งเข้าทีเหมือนกัน


ท่านผู้รู้กล่าวถึงความนิยมในวงการพระสงฆ์(วัดใน กทม.) ว่า เจ้าอาวาสหรือพระผู้น้อยในวัดต่างๆ (พอมีฐานะ) จะจัดงานทำบุญวันเกิดของเจ้าอาวาส หรืองานวันบุรพาจารย์ของวัดเป็นงานใหญ่ประจำปี
 

แต่จะให้งานยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีท่านเจ้าอาวาส หรือบุรพาจารย์ ต้องนิมนต์พระผู้ใหญ่เหนือตนมาในงาน เช่นสมเด็จพระราชาคณะ เจ้าคณะหน หรือเจ้าคณะภาค ซึ่งบางรูปมีตำแหน่ง กรรมการมหาเถรสมาคมด้วย
 

เมื่อพระระดับบิ๊กๆ มา ต้องเตรียมปัจจัยก้อนใหญ่ และสิ่งของชั้นดีถวาย


  

เขาว่าก่อนไวรัสโควิด 19 ระบาด (2-3 ปี) พระสมเด็จ หรือรองสมเด็จ รับงาน เฉพาะช่วงก่อนเพลอย่างน้อย 2 งาน 


ทำแบบนี้ได้อย่างไร ทำได้ ภาษาพระท่านว่า วิ่งรอก (เหมือนยุคนักร้องลูกทุ่งเฟื่องฟู นักร้องดังต้องวิ่งรอก กันจ้าระหวั่น)


คือท่านแวะงานแรก ถวายมุทิตา(นิดหน่อย) พอให้เจ้าภาพสุขใจ รับเครื่องสักการะแล้วรีบลา เพื่อไปฉันเพลอีกวัดหนึ่ง แน่นอนวัดที่สองได้มอบผ้าไตรมุทิตา รับสักการะเป็นกอบเป็นกำ ฉันเพลเสร็จกลับวัด
 
(ปัจจุบันการวิ่งรอกน้อยลง) 


คำถามที่ไม่มีใครตอบ คือสมเด็จ หรือรองสมเด็จ รับงานนั้นๆ ในนามส่วนตัว หรือในนามตำแหน่งที่ท่านดำรงอยู่ (สมเด็จบางรูปรับเป็นประธานหลายตำแหน่ง จนนักวิเคราะห์สงสัยว่าท่านเอาเวลาจากไหนมาประชุมหรือทำงาน)


หากรับในนามส่วนตัว ต้องลงบัญชีส่วนตัว


หากรับในฐานะ มส. เจ้าคณะหน หรือเจ้าคณะภาค ต้องลงบัญชีต้นสังกัด


ปัญหาคือไม่มีข้อบังคับให้ปฏิบัติ ของสักการะที่รับมา จึงเป็นของตนเองทั้งหมด


หากมีข้อบังคับให้แยกบัญชีส่วนตัว กับบัญชีที่รับในตำแหน่ง หลวงพ่อรวย(ไม่ใช่หลวงพ่อรวย อยุธยา) คงไม่เกิด 


และปัญหาลูกศิษย์คิดโกงอาจารย์ คงไม่มีให้ชาวบ้านนินทา เหมือนที่นายเนยทำให้อาจารย์แสบ แม้จะมรณภาพไปแล้ว


จึงถึงเวลาให้พระผู้ใหญ่แยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีส่วนรวมได้แล้ว