วัดมหาวนาราม วัดหลวงประจำจังหวัดอุบลราชธานี เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 - 13 มีนาคม 2567 วัดนี้จะมีชื่อเพิ่มในหน้าประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในไทย เมื่อเป็นที่ประดิษฐานชั่วคราว ของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกขวา ซ้าย ของพระพุทธเจ้า
ตามที่รัฐบาลอินเดีย ได้ตกลงกับรัฐบาลไทย เพื่ออัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอรหันตธาตุ มาประดิษฐานชั่วคราวในไทยระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ถึง 19 มีนาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเปิดให้ประชาชนสักการะ ในกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม จังหวัดเชียงใหม่ 5 - 8 มีนาคม จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่าง วันที่ 10 - 13 มีนาคม และที่จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567 ดังที่ทราบแล้วนั้น
คอลัมน์นี้ จึงขอนำประวัติวัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี และวัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ มาเล่าโดยสังเขป
ลุงกูเกิลว่า วัดมหาวนาราม เป็นวัดโบราณ เดิมชื่อว่าวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์
ตั้งอยู่เลขที่ 370 ถนนหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
นอกจากชื่อที่ว่าแล้ว ชาวบ้านยังเรียกว่าวัดป่าใหญ่ ก่อตั้งมาตั้งแต่พ.ศ.2322
พระประธานในพระอุโบสถ มีชื่อเรียกว่า พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงมีอายุประมาณ 200 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทองศิลปแบบลาว มีชื่อแบบเดียวกันนี้ 3 องค์ คือหนึ่งองค์ประดิษฐานที่วัดอินแปลงมหาวิหาร นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว องค์นี้มีอายุประมาณ 1,000 ปี องค์ที่สอง ประดิษฐานที่วัดอินทร์แปลง จังหวัดนครพนม องค์สุดท้าย คือพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนารามหน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 5 เมตร ที่ซุ้มเรือนแก้วด้านหลังองค์พระ ระบุนามผู้สร้างเรือนแก้วเมื่อพ.ศ.2479 และช่างผู้ทำไว้ด้วย
ปัจจุบันเจ้าอาวาส มีนามว่า พระราชวชิรกิจโกศล (พระมหาสุดใจ นิสโสโก (Ph.D) มีตำแหน่งปกครองเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีอีกตำแหน่งหนึ่ง
"วัดมหาธาตุวชิรมงคล"
ส่วนวัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ มีประวัติโดยย่อว่า เป็นวัดราษฎร์ แต่งดงามมาก มีพระมหาเจดีย์พุทธคยา (จำลอง) เป็นไฮไลท์ ตั้งที่บ้านโทง ต.นาเหนืออำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ สร้างในปีพ.ศ.2483 เดิมชาวบ้านเรียกว่าบางโทง ตั้งบนที่ดิน 100 ไร่ บริจาคโดนนายเปล้า ทองศิริ นายมั่น เพ่งกิจ และนายน่วม ดำพันธ์
ปัจจุบันเจ้าอาวาสมีนามว่า พระเทพวชิรากร(พิศาล ปรินทโก) เป็นพระนักพัฒนาและส่งเสริมการเรียนพระปริยัติธรรมและเป็นรองเจ้าคณะภาค 17 ด้วย
วัดนี้จะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุวันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567 ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายที่ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอรหันตธาตุของอัครสาวก ขวาซ้าย ที่จะประดิษฐานชั่วคราวในไทย