KEY
POINTS
หลายอาทิตย์ก่อนผมเคยนำเสนอเรื่อง ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดบกพร่อง (Primary Immunodeficiency Diseases - PIDs) ซึ่งผมได้กล่าวถึงมนุษย์เราทุกคน ล้วนมีระบบภูมิคุ้มกันหรือ Immune System กันทุกคน ซึ่งถ้าหากภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด มีการทำงานที่บกพร่อง ก็จะทำให้มีปัญหาทางด้านสุขภาพขึ้นได้ และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เจอกับเพื่อนท่านหนึ่ง เขามาเล่าให้ผมฟังว่า คุณแม่ของเขามีปัญหาด้านโรคไทรอยด์อักเสบ(Hashimoto’s Thyroiditis) ในตอนแรกที่ไปพบแพทย์ คุณหมอบอกว่า คุณแม่ของเขาเป็นโรคภูมิคุ้มกันมีปัญหา ซึ่งเขาเข้าใจว่า น่าจะเป็นเพราะภูมิคุ้มกันตนเองบกพร่อง หรือภูมิคุ้มกันตนเองของคุณแม่เขาทำงานไม่ดี แต่แพทย์แจ้งเขาว่า คุณแม่เขาเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune Disease) ซึ่งเป็นเพราะภูมิคุ้มกันตนเองทำงานดีเกินไป จึงทำให้เกิดอาการของโรคไทรอยด์อักเสบ เขาก็เลยถามผมว่าโรคนี้เป็นยังไง? ผมก็ตอบไปว่า “ผมเองไม่ใช่หมอ ก็ไม่รู้เหมือนกัน” แต่จะพยายามสืบค้นหามาให้ครับ
ที่ผมไปสืบค้นมาได้ พบว่าโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง (Autoimmune Disease) เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ หรือทำงานดีเกินไป จึงไปโจมตีเซลล์หรืออวัยวะของตนเอง แทนที่จะป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม เหมือนอย่างภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด(Innate Immunity) โดยโรคเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุของคนเรา แต่ถ้าเกิดในผู้สูงวัย มักมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากความเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกันและโรคร่วมอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเกิดโรคและการรักษา ถ้าจะอธิบายแบบง่ายๆให้คนธรรมดาอย่างเราๆเข้าใจง่ายขึ้น ต้องเอาทั้งสองโรคมาเปรียบเทียบ โรคทั้งสองกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันก็จริง แต่ทำงานผิดปกติไปคนละแบบ กล่าวคือ โรคภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดบกพร่อง ก็คือภูมิคุ้มกันอ่อนแอเกินไป จึงทำให้ผู้สูงวัยติดเชื้อง่ายขึ้น ในขณะที่โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองก็คือ ภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไป หรือทำดีเกินเหตุ จึงไปทำลายอวัยวะของร่างกายตัวเอง
ถ้าเราลองนึกภาพถึงระบบภูมิคุ้มกันเป็น “ทหารป้องกันประเทศ” ถ้าทหารอ่อนแอเกินไปหรือไม่มีเลย ศัตรู(เชื้อโรค)ก็บุกเข้ามาได้ง่าย ก็เปรียบเสมือนโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องนั่นแหละ หรือถ้าทหารเราเข้มแข็งเกิน จนทำให้เกิดอาการสับสน คิดว่าประชาชน(ร่างกายเรา)เป็นศัตรู ทหารจึงเข้าโจมตีประชาชนของตัวเอง ก็เหมือนโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองนั่นเองครับ
ในปัจจุบันนี้พบว่า โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองมีมากกว่า 80 ชนิด โดยบางโรคมีความรุนแรงสูงและส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญของเรา เช่น หัวใจ สมอง ไต ข้อ และผิวหนัง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพของผู้สูงวัย ระบบภูมิคุ้มกันมีบทบาทสำคัญในการปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคและปัจจัยที่เป็นอันตรายอื่นๆ แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ระบบนี้อาจจะเสื่อมลงหรือทำงานผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่โรคสองกลุ่มหลัก อันได้แก่ โรคภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดบกพร่อง (Primary Immunodeficiency Diseases - PIDs) และ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune Diseases) แม้ว่าโรค PIDs มักได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เด็ก แต่บางชนิดอาจไม่แสดงอาการ จนกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่หรือวัยสูงอายุ ในขณะที่โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง มีแนวโน้มพบบ่อยขึ้นในผู้สูงวัย เนื่องจากความเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งคุณแม่ของเพื่อนผมก็น่าจะเป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคดังกล่าวนั่นเองครับ
ผลกระทบของโรคทั้งสองกลุ่มต่อผู้สูงวัย จะเห็นว่า PIDs เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานบกพร่อง ผู้ป่วยมักจะมีแนวโน้มติดเชื้อบ่อยกว่าคนปกติ โรคเหล่านี้อาจถูกวินิจฉัยในวัยเด็กหรือแสดงอาการช้าในช่วงวัยกลางคนและสูงวัย จึงทำให้ผู้สูงวัยที่มี PIDs มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงขึ้น ถ้าหากตรวจพบล่าช้า อาการอาจถูกเข้าใจผิดคิดว่า เป็นผลจากวัยชรา ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อเรื้อรัง จนอาจนำไปสู่โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือโรคหัวใจได้ครับ
ส่วนใหญ่อาการของโรค PIDs ในผู้สูงวัย มักจะติดเชื้อบ่อย เช่น ปอดบวม ไซนัสอักเสบ แผลหายช้า ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ เช่น ท้องเสียเรื้อรัง ภูมิแพ้รุนแรง หรือบางคนก็จะมีความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิดสูงขึ้น เช่น การอักเสบเรื้อรังในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นต้น
ส่วน โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune Diseases) โรคกลุ่มนี้เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเซลล์ของร่างกายเอง ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และความเสียหายต่ออวัยวะต่างๆ ซึ่งอาจจะเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมและสับสน จนทำให้เกิดการตอบสนองต่อเนื้อเยื่อตัวเอง หรือคนที่มีอายุเพิ่มสูงขึ้น(ก็คนแก่อย่างเรานี่แหละ) ก็จะทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันผิดปกติ ส่งผลให้เกิดโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ที่เกิดจากการกระตุ้นของอาการอักเสบ อาการของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง หรือ Autoimmune Diseases มักจะทำให้ผู้สูงวัยมีอาการปวดข้อ และข้ออักเสบอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง จนทำให้เกิดผื่นหรือแผลที่ผิวหนัง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและปอด โรคที่เกิดจาก Autoimmune Discases ที่พบบ่อยในผู้สูงวัย ก็มีโรคลูปัส (SLE) ที่ส่งผลต่อผิวหนัง ไต และหัวใจ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) ที่ทำให้ข้ออักเสบและผิดรูป โรคไทรอยด์อักเสบ (Hashimoto’s Thyroiditis) ที่ทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ หรือโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ผลิตอินซูลินนั่นเอง นอกจากนี้ยังทำให้มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของอัลไซเมอร์ในผู้สูงวัยอีกด้วยครับ
จะเห็นได้ว่า โรคภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดบกพร่อง PIDs และโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง Autoimmune Diseases ล้วนส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้สูงวัย ดังนั้นพวกเราชาวผมสีเงินทั้งหลาย ควรจะต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำ ถ้าคุณหมอท่านสั่งให้ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ก็ฉีดๆไป อย่าดื้อ อีกทั้งต้องควบคุมอาหารการกิน ห้ามตะกละตะกลาม กินแต่พออิ่มนะครับ อีกทั้งต้องหมั่นออกกำลังกาย และหมั่นตรวจสุขภาพตนเอง ด้วยการเฝ้าระวังอาการผิดปกติในร่างกายของเราเอง ซึ่งจะทำให้ได้อยู่ร่วมกันกับผม หรืออยู่เป็นเพื่อนผมจนครบร้อยยี่สิบปีนะครับ