*** น่าจับตาว่าราคาหุ้นของ JTS บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับราคาขึ้นมากกว่าเท่าตัวในช่วงเวลาเพียงไม่ถึง 2 เดือน จากระดับ 45 บาท เป็น 60 บาท ในรอบ 1 เดือน และขยับขึ้นมาจากหุ้นละ 30 บาท มายืนระดับ 60 บาท ในรอบ 6 เดือน ที่เจ๊เมาธ์พอที่จะจับสัญญาณได้ ก็เป็นเรื่องที่ราคาซื้อขายบิตคอยน์มีที่มาจนถึงวันนี้ขยับขึ้นไปแตะ 44,000 ดอลลาร์ ต่อเหรียญบิตคอยน์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะส่งอิทธิพลต่อราคาหุ้นของ JTS ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจของ JTS กับเหมืองขุดบิตคอยน์ ก็คือ การที่บริษัทได้ประกาศ “ได้หยุดดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์เป็นการชั่วคราวตั้งแต่เดือนมกราคม 2566” หลังจากที่ผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทขาดทุนสุทธิถึง 247.17 ล้านบาท
ธุรกิจขุดบิตคอยน์ที่บริษัทประกาศทุ่มลงทุนนั้น ทำรายได้ปี 2565 ได้เพียง 143.07 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 4/2565 บริษัทมีรายได้จากการขุดบิตคอยน์ลดลงเหลือแค่ 38.35 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า ปัจจุบัน JTS ไม่ได้ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องใดกับบิตคอยน์ ดังนั้น การที่ราคาหุ้นของ JTS ปรับขึ้นมาในรอบนี้ จึงเชื่อได้ว่า เป็นเพียงเรื่องของการเก็งกำไรตามข่าว โดยไม่มีเรื่องของรายได้และกำไรที่มาจากธุรกิจเหมืองบิตคอยน์เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากมีการจุดประเด็นว่าทาง JST จะกลับไปทำเหมืองขุดบิตคอยน์อีกครั้ง ราคาหุ้นก็มีโอกาสจะวิ่งแรงได้เหมือนกันนะคะ ของแบบนี้ไม่แน่ เอาราคาหุ้นขยับก่อน...เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที
สำหรับ JTS มี พิชญ์ โพธารามิก ถือหุ้นอยู่ 8% และ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอยู่ 32.8%
*** ราคาหุ้น WORK ของ เสี่ยตา “ปัญญา นิรันดร์กุล” ปรับลงไปอยู่ที่ราคาต่ำที่สุดในรอบหลายปี โดยในรอบ 1 ปี ราคาร่วงลงจาก 18 บาท มาอยู่ที่ระดับ 11 บาท ในปัจจุบัน แม้ว่าล่าสุด บริษัท ไทยบรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WORK จะเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเดิมและหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท โคตรคูล จำกัด (KK) วงเงินไม่เกิน 216 ล้านบาท ในสัดส่วน 49% แต่ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ WORK จะยังดูไม่ดีขึ้นในสายตาของนักลงทุน
อย่างแรก เป็นเพราะบริษัทยังขาดทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในแบบที่ไม่มีอะไรดีขึ้น
อย่างที่สอง เป็นเรื่องแนวโน้มของธุรกิจบันเทิง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ WORK ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพัฒนาไปอย่างไม่หยุด ซึ่งนั่นก็หมายความว่า WORK ยังคงเดินอยู่ในทิศทางของธุรกิจเดิม โดยที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ดังนั้นคงจะโทษใครไม่ได้ เพราะหากบริษัทยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง...ราคาหุ้นของบริษัทก็คงจะยังไม่ไปไหนเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ
*** หุ้น PTTEP บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ที่ขยับขึ้นมาจากระดับ 148 บาท ในกลางปี มาไต่ระดับที่ 170-175 บาท ในเดือนตุลาคม และเริ่มทิ้งตัวลงมาระดับ 140.50 บาทในปัจจุบัน ถือเป็นแรงเหวี่ยงจากระดับราคาน้ำมัน
แต่ล่าสุดเริ่มมีสัญญาณบางอย่าง เมื่อ บริษัท พีทีทีอีพี เอชเค ออฟชอร์ จำกัด และ บริษัท พีทีทีอีพี ซาราวัก ออยล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTTEP ในมาเลเซีย ได้ค้นพบแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมอีก 3 แหล่ง บริเวณนอกชายฝั่งซาราวัก ประเทศมาเลเซีย จากหลุมสำรวจเชนด้า-1 (Chenda-1) ในแปลงสำรวจ เอสเค405บี และหลุมสำรวจบังสะวัน-1 (Bangsawan-1) หลุมสำรวจบาบาด้อน-1 (Babadon-1) ในแปลงสำรวจ เอสเค438 ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่เคยสำรวจพบน้ำมันและก๊าซฯ มาก่อนหน้านี้
ว่ากันว่า เฉพาะหลุมบาบาด้อน-1 สำรวจพบชั้นหินกักเก็บก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูง มีความหนาสุทธิกว่า 200 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งที่มีปริมาณก๊าซธรรมชาติมากอีกแหล่งหนึ่ง ที่ PTTEP ค้นพบในมาเลเซีย รองจากแหล่งลัง เลอบาห์
ปัจจุบัน PTTEP มีโครงการที่อยู่ในระยะสำรวจ พัฒนา และผลิตในประเทศมาเลเซียกว่า 10 โครงการ ได้แก่ แปลงสำรวจ เอสเค 405 บี, เอสเค438, เอสเค 314 เอ, เอสเค 417, พีเอ็ม 407, เอสบี 412, เอสเค 325 ซึ่งอยู่ในระยะสำรวจ
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,947 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2566