SET ปี 2025 ปีทองหรือปีนอน?

ด้วยความที่หายไปหลายสัปดาห์นะครับ จึงต้องขอย้อนความก่อนว่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตลาดลงมาแรงเกือบร้อยจุด จากตัวเลขประมาณ 1457 มา 1362 ซึ่งเป็นบริเวณที่ต่ำกว่า 1400 อีกรอบหนึ่ง แน่นอนว่าสาเหตุหลักๆ รอบนี้เกิดจากการเสียความเชื่อมั่นจากกรณีหุ้นรายตัว จากทั้ง 2 กรณี ได้แก่ CPAXT และ TOP แต่สิ่งที่สังเกตได้จากการลงรอบนี้คือ ดัชนีไม่ได้ลงจากปัจจัย fundamental หรือปัจจัยพื้นฐาน เช่น GDP ผิดคาดการณ์ หรือมีการหยุดการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ ดัชนีรอบนี้ลงมาจากปัจจัยความกังวลของนักลงทุนที่เกิดจากหุ้นรายตัวไม่กี่ตัว เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ดัชนีฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนเราเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยมี Santa Rally

ตัดภาพไปปีหน้าผมก็ยังมองว่าน่าจะเป็นปีที่ดีของตลาดหุ้นไทยในภาพใหญ่ เพียงแต่ว่าในภาพเล็กช่วงต้นมกราคม ตลาดก็อาจจะเงียบๆ ซึมๆ เพราะรอปัจจัยสำคัญ ก็คือการเข้ามารับตำแหน่งของ Donald Trump ในวันที่ 20 มกราคม 2568 และหลังจากนั้นตลาดหุ้นก็จะกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งจากการเปลี่ยนนโยบายที่มากมายของ Trump

สิ่งที่ควรทำยังคงเป็นการซื้อในช่วงต้นปี เพราะต่อให้ดัชนีอาจจะยังไม่ได้ขึ้นแบบรุนแรง แต่ผมก็ยังเชื่อว่าจะไม่ต่ำกว่า 1350 (ไม่ได้บอกว่าจำเป็นต้องถึง)

หากเราดูตามรูปที่ผมวาดจะเห็นว่า SET50 ภาพแบบระยะสัปดาห์ลงมาที่แนวรับพอดี และยังคงเป็นแนวรับที่ถ้ายืนอยู่ยังคงสามารถมองเป็นแนวโน้มขาขึ้น

สรุปก็คือยังมองเป็นจังหวะเพิ่มพอร์ตในช่วงต้นปี และยังคิดว่ากลุ่มแบงค์เด่น ถามว่าทำไมแบงค์เด่น?

หากเราพูดถึงกลุ่มแบงค์ โดยเฉพาะแบงค์ตัวใหญ่ นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยมักจะหันหน้าหนี ต่างจากในยุคสมัยก่อนที่หุ้นแบงค์ถือเป็นตัวสำคัญที่ทุกคนต่างต้องมีติดพอร์ต

ก่อนจะไปพูดว่าทำไมหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสจะกลับมา outperform เรามาเจาะว่าทำไมหุ้นกลุ่มนี้เสน่ห์ถึงลดลง

1. การมีหุ้นให้เลือกที่หลากหลายขึ้น: ในยุคหลังเราเริ่มมีหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่เข้ามาอยู่ในตลาด ยกตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่ม TECH และ ELECTRONIC ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ภาพที่เห็นชัดสุดในปีนี้คงเป็น CCET ที่ไม่ได้เพิ่งเข้าตลาดมา แต่การเปลี่ยนธุรกิจให้ทันกับโลกยุคใหม่มากขึ้น จึงกลายมาเป็นหุ้นที่ทุกคนสนใจ
2. สองปีหลังต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ไม่ได้ดีมากนักและนับว่าเล่นยากที่จะได้กำไรเยอะ เพราะฉะนั้น หุ้นกลุ่มแบงค์ที่นับว่าเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่และ conservative ในตลาดหุ้นไทย ก็ไม่แปลกที่จะออกไปในรูปแบบ sideway เราจะสังเกตเห็นได้ว่า ในช่วงที่ตลาดรวมลงเยอะๆ แบงค์ก็ไม่ได้ลงเยอะเท่า หรือพูดง่ายๆ น้อยมากที่แบงค์จะ underperform benchmark
3. การที่โลกอยู่ในเทรนด์ดอกเบี้ยขาลงทำให้นักลงทุนคิดว่าแบงค์จะได้ net interest margin ที่ลดลง

อย่างไรก็ตามในรอบสั้นนี้ผมกลับคิดต่างและคิดว่าหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะสามารถ outperform ได้ เจาะไปทีละประเด็น:

1. ต่อให้เทรนด์ดอกเบี้ยเป็นขาลง แต่เราต้องไม่ลืมว่าแบงค์ไทยไม่เหมือนกับแบงค์เมืองนอก เพราะจำนวนแบงค์ไทยมีจำนวนน้อย โดยเฉพาะจำนวนแบงค์ใหญ่ เพราะฉะนั้นเราจะสังเกตเห็นได้เลยว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง กำไรของแบงค์ยังคงดี และถ้ายังจำกันได้จนถึงขนาดมีคนบอกแบงค์จะล่มเมื่อ 2-3 ปีก่อน ซึ่งผมบอกเลยว่ายาก และปัจจุบันก็คงพิสูจน์ให้เห็นแล้ว และที่สำคัญหากเราลองไปดู net interest margin ของแบงค์ใหญ่ในไทยจะพบว่าไม่ลดลงต่อให้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง
2. ต่อมาในเรื่องของดอกเบี้ย ส่วนตัวผมก็เชื่อว่าดอกเบี้ยไม่ได้ลงมากเท่าที่คิด สาเหตุก็เพราะว่า การเข้ามาของ Trump ต้องพยายามพยุงค่าเงินไว้ให้ได้ เพราะฉะนั้นอาวุธสำคัญอย่างดอกเบี้ยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบใช้
3. หากไปดูเชิง technical จะเห็นว่าหุ้นแบงค์ใหญ่ทางเทคนิคส่วนใหญ่มี gap อยู่ 5-10%
4. ส่วนตัวผมอยู่ฝั่งดัชนีรวม SET Bullish และถ้าเราจะไปดูความคล้องจองของราคาหุ้นกับ SET จะพบว่ายังสูงมาก

สุดท้ายนี้ฝากสัมมนา วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 ผ่านโปรแกรม Zoom คนที่สนใจสามารถทักมาได้ทาง inbox เพจ Facebook: ศุภพงศ์ เอี่ยมคงเอก, CMT