thansettakij
Timeline ในอนาคตของการควบรวม GULF + INTUCH

Timeline ในอนาคตของการควบรวม GULF + INTUCH

26 มี.ค. 2568 | 22:00 น.
อัปเดตล่าสุด :26 มี.ค. 2568 | 22:06 น.

Timeline ในอนาคตของการควบรวม GULF + INTUCH และการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียก่อนและหลังการควบรวม คอลัมน์ SUPER TRADER โดย วัชรพล นุชสมบัติ Super Trader

Q1/2568 (ไตรมาส 1 ปี 2025)

25 มีนาคม 2568 

  • ประชุมผู้ถือหุ้น GULF และ INTUCH เพื่ออนุมัติแผนควบรวม

21 มีนาคม - 2 เมษายน 2568

  • หยุดซื้อขายหุ้น GULF และ INTUCH ชั่วคราว เพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนหุ้นและจัดตั้งบริษัทใหม่

 

Q2/2568

3 เมษายน 2568

  • หุ้นของบริษัทใหม่ “Gulf Development” เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยใช้ชื่อย่อเดิม “GULF”

พฤษภาคม - มิถุนายน 2568

  • เริ่มรีแบรนด์ (หากมี) และเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่อย่างเป็นทางการ เช่น Smart Energy, Digital Infra, Investment Roadmap

 

H2/2568 (ครึ่งปีหลัง)

Q3/2568

  • เริ่มทยอยเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าใหม่
  • ขยายโครงการพลังงานหมุนเวียน และ Data Center
  • คาดเริ่มเห็นผลเชิงรายได้จาก Synergy บางส่วน


Q4/2568

  • รายงานงบการเงินฉบับแรกภายใต้โครงสร้างบริษัทใหม่
  • ประเมินภาพรวมหลังควบรวม 6 เดือนแรก
     

วางแผนลงทุน 5 ปี (2569 - 2573)

2569 เป็นต้นไป (2026+)

  • ลงทุนกว่า 90,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
  • ในโครงการพลังงานหมุนเวียน, ดิจิทัล, Smart Infra
  • ขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะ ASEAN, ตะวันออกกลาง
  • รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 20 - 25%
  • จาก Synergy + การลงทุนใหม่ + พลังงานสะอาด
     

 

การเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียก่อนและหลังการควบรวม


ก่อนการควบรวม

GULF (กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี)
ข้อดี

  • เติบโตเร็วจากธุรกิจพลังงาน
  • มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ
  • มีพันธมิตรระดับโลกหลายแห่ง

ข้อเสีย

  • รายได้ผันผวนตามราคาพลังงาน
  • มีหนี้สูงจากการลงทุนระยะยาว
  • พึ่งพาธุรกิจพลังงานเป็นหลัก


INTUCH (อินทัช โฮลดิ้งส์)
ข้อดี

  • ได้รับเงินปันผลมั่นคงจาก ADVANC (AIS)
  • มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง

ข้อเสีย

  • โอกาสเติบโตในระยะยาวค่อนข้างจำกัด
  • ไม่มีธุรกิจที่สามารถสร้าง Synergy ใหม่ได้ด้วยตัวเอง

 

หลังการควบรวม (บริษัท Gulf Development)
ข้อดี

  1. รายได้มีความมั่นคงมากขึ้นจากการรับปันผลของ ADVANC ผ่าน INTUCH
  2. กระจายความเสี่ยงจากพลังงานเพียงอย่างเดียว ไปสู่ธุรกิจเทคโนโลยีและโทรคมนาคม
  3. มีโอกาสพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ เช่น Smart Grid, Smart City, Data Center
  4. ศักยภาพการเติบโตสูงขึ้นจาก Synergy ระหว่าง Energy + Technology
  5. เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งในตลาดทุน

ข้อเสีย

  1. การควบรวมองค์กรขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาในการปรับตัว และอาจมีต้นทุนแฝง
  2. โครงสร้างซับซ้อนขึ้น การบริหารจัดการอาจท้าทายมากกว่าเดิม
  3. ความคาดหวังจากนักลงทุนสูงขึ้น อาจกดดันผลประกอบการ
  4. หากกลยุทธ์ใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจกระทบทั้งสองกลุ่มธุรกิจ
  5. ภาระหนี้ยังคงอยู่จากฝั่ง GULF ต้องบริหารสภาพคล่องอย่างระมัดระวัง