ระวังอย่าให้ “ซอฟต์พาวเวอร์” เละเทะ

09 ธ.ค. 2566 | 01:25 น.
อัพเดตล่าสุด :10 ธ.ค. 2566 | 01:25 น.

ระวังอย่าให้ “ซอฟต์พาวเวอร์” เละเทะ คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

...SvS... คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,947 ระหว่างวันที่ 10-13 ธ.ค.2566 โดย...กาแฟขม 
  
...SvS... ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 ที่เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา ประกาศขึ้นทะเบียน สงกรานต์ไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible Cultural Heritage - ICH) สงกรานต์เป็นประเพณีอันงดงาม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย ที่สืบเนื่องกันมาช้านาน มีการเข้าทำบุญ สรงนํ้าพระ เล่นนํ้า ดำหัว ที่ผ่านมาเป็นเฟสติวัล ที่ฝรั่ง หรือ ชาวต่างชาติ ปักหมุดหมายเดินทางมาเที่ยวในระหว่างเทศกาลประเทศไทย ปีหน้านัยว่า คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีแผนที่จะจัดงานสงกรานต์เล่นสาดนํ้ากันทั้งเดือน ไล่ไปตามภูมิภาค โดยตั้งงบประมาณเฟสติวัลสนับสนุนการจัดงาน นับพันล้านบาท
 

...SvS... เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอบคุณยูเนสโกที่ประกาศให้สงกรานต์ เป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ เป็นประเพณีปีใหม่ไทย ส่งต่อมาหลายรุ่นต่อรุ่น ถือเป็นเทศกาลที่สร้างความคุณค่า และเป็นวัฒนธรรมของไทย และมีการสาดนํ้า และการสรงนํ้าพระ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย ว่าแล้วก็กล่าวเชิญชวนให้มาเที่ยวสงกรานต์ประเทศไทยในปี 2567
 
...SvS... ว่าด้วยประเพณีวัฒนธรรมของไทย ที่รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ ฟัง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นรองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ วันก่อนพร้อมทุ่มสุดตัว ซึ่งมีหลายสาขาที่ปั้นได้ อาหารไทย ท่องเที่ยวไทย มวยไทย เพลง หนัง พร้อมจะทุ่มงบประมาณสนับสนุนนนับหมื่นล้านบาท แต่ให้คิดให้รอบคอบ ไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ หยิบจับอะไรขึ้นมาแล้วขายได้หมด ต้องคัดเลือก กลั่นกรองให้เหมาะสม และทำความเข้าใจให้ชัด จะได้ไม่เดินผิดทิศผิดทาง เอางบไปใช้กันแบบตำนํ้าพริกละลายแม่นํ้า โฟกัสให้ชัด และเดินให้ตรง อย่าไปหลงกับเรื่องราว ที่ใครหลายคนชงหวังประโยชน์โพดผล เข้าพกเข้าห่อ หรือ พวกเสือพ่วงทั้งหลาย ฉะนั้นกลับไปคัดกลั่นกรองให้ดี อย่าให้ซอฟต์พาวเวอร์เละเทะ 

...SvS... ของขวัญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องจับตา หลังจากนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร คราวนี้มาถึงโครงการโฉนดต้นไม้ ภายใต้การดำเนินการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะออกเอกสารสิทธิ์สำหรับต้นไม้ที่เป็นพืชเศรษฐกิจ อย่าง ต้นยางพารา ที่ปลูกบนที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ จะคิดมูลค่าราคาให้ 500 บาท ต่อ 1 ต้นยางพารา เพิ่มมูลค่าทรัพย์ในต้นยาง เกษตรกรสามารถนำโฉนดต้นยางไปกู้และต่อทุน แปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนเพื่อต่อยอดการดำเนินการต่อไปได้ เริ่มจากยางพาราก่อน แล้วจะขยายไปสู่พืชยืนต้นอื่นๆ ต่อไป

อันนี้คงต้องไปดูรายละเอียดกันมากหน่อยในการทำโฉนดต้นไม้ ที่แถลงกันออกมายังแค่เปิดหน้าฉาก การเพิ่มมูลค่าให้ชาวสวนยางพาราเข้าถึงแหล่งทุนต่อยอด สร้างรายได้เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องทำให้ครบวงจรเจรจากับสถาบันการเงินด้วย ที่แน่ๆ ต้องดูปัญหาของชาวสวนยางให้ชัด เขามีปัญหาในการเข้าถึงแหล่งทุนแท้จริงหรือไม่ หรือปัญหาที่การผลิต หรือการแปรรูปสร้างมูลค่า หรือการตลาดมากกว่า ก็ต้องแก้กันให้ตรงจุดครับ ฯพณฯ

...SvS...เรื่องหมูๆ นี่มีทีท่าว่าจะไม่หมูไปเสียแล้ว เมื่อมีการจับกุม “หมูเถื่อน” ที่เข้ามาโดยสำแดงเท็จ ยิ่งสาวยิ่งลึก พันไปเรื่องการเมืองระหว่างพรรค ระหว่างรัฐมนตรี บริษัทเอกชน นักเคลื่อนไหว นักเคลียร์ นักจัดม็อบ ดูจะวุ่นวายไม่ใช่น้อย แน่นอนการนำหมูจากต่างประเทศเข้าตีตลาดหมูในประเทศ เป็นความเจ็บปวดของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูจำนวนมากในประเทศไทย ที่ต้องถูกกดราคาให้ตํ่าลง บางรายต้องเลิกเลี้ยง และเป็นหนี้สิน สิ้นเนื้อประดาตัว จึงเป็นความชอบที่จะต้องไล่กระบวนการหมูเถื่อนให้สิ้นไปจากระบบ กลุ่มเกี่ยวข้องหมูเถื่อนมีใครบ้าง กลุ่มทุนนำเข้าหมูเถื่อน อดีตรัฐมนตรี กลุ่มชิปปิ้ง กลุ่มเอกชนระบายตลาดหมูเถื่อน ต้องทะลายวงจรนี้ให้ได้ เมื่อหยิบจิ๊กซอว์ตัวใดตัวหนึ่งออกมา ย่อมเกิดอาการกระจัดกระจายในแผนภาพ เมื่อต่อจิ๊กซอว์เข้าด้วยกันก็จะชัดๆ ขึ้นๆ
 
...SvS...เรื่องนี้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ต้องดูให้ดี อย่าให้ข้าราชการชงเรื่องผ่านๆ ในกระบวนการตรวจสอบโรงงานเหล็ก เพื่อพิจารณาต่ออายุมาตรการการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) แว่วว่าให้เอกชนจ่ายค่าเดินทาง ค่าโรงแรม ค่าเลี้ยงรับรอง ไปตรวจโรงงานของเจ้าหน้าที่ ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามา อาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์เอกชนในการแลกเปลี่ยน ในการประกาศมาตรการเอดี ที่ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ประเดี๋ยวจะกลายเป็นตัดสินไปตามเอกชนที่ให้การเลี้ยงดูปูเสื่อ อันนี้ก็จะเสียหายใหญ่หลวงได้