สัญญาณเศรษฐกิจ ฟื้นตัวดี ยอดใช้น้ำมันพุ่ง

วิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา และยืดเยื้อที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ส่งผลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมาต่อเนื่อง กระทบต่อค่าครองชีพ ภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นทั่วโลก แรกๆ ประเมินกันว่า เศรษฐกิจไทยอาจจะเข้าสู่ภาวะถอดถอย มีการปรับประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจทั้งปีกันมาเป็นระยะๆ ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินอยู่ที่ 3% กระทรวงการคลัง 3.5% และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) 2.7-3.5%
 

ภาวะเศรษฐกิจของปีนี้ ที่จะขยายตัวดังกล่าว ถึงวันนี้ดูแล้วมีความเป็นไปได้สูง เพราะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง สะท้อนได้ชัด จากยอดการใช้พลังงานของประเทศ กรมธุรกิจพลังงาน รายงานตัวเลขยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในรอบ 7 เดือน (ม.ค.-ก.ย.65) เฉลี่ยอยู่ที่ 151.04 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.5%
 

เป็นการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 16.2% เฉลี่ยอยู่ที่ 73.44 ล้านลิตรต่อวัน เป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือ ตรึงราคาให้ไม่เกิน 30-35 บาทต่อลิตร จนถึงเดือนกันยายน 2565 การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.4% เฉลี่ยอยู่ที่ 29.80 ล้านลิตรต่อวัน
 

ขณะที่การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.59 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 69.5% เป็นการสะท้อนให้เห็นชัดว่า ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว สายการบินต่างๆ กลับมาดำเนินธุรกิจมากขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้า-ออกประเทศ

รวมถึงการใช้ก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.4% เฉลี่ยอยู่ที่ 18.17 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น โดยภาคขนส่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.13 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 23.6% ภาคปิโตรเคมี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.27 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.4% ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.03 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 10.2% และภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.74 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.2% เป็นต้น

ส่วนการการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 1,031,582 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.5% เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้นดังกล่าว การนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 963,155 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.7% มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 108,453 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 103.5 %

การใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นนี้ กำลังบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจ ใกล้กลับมาเป็นปกติก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทุกภาคส่วนกำลังกลับมาดำเนินกิจกรรมได้เกือบจะเต็ม 100% เครื่องยนต์เศรษฐกิจเริ่มมาทำงาน และกำลังจะทะยาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริโภคภายในประเทศ ปรับตัวดีขึ้น การส่งออก เป็นไปตามเป้าหมาย การลงทุนภาครัฐและเอกชน ปรับตัวดีขึ้น ภาคการท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเข้ามามากขึ้น
 

ดังนั้น เวลาที่เหลือของปีนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่หลายสำนักคาดการณ์ไว้ หากไม่มีสถานการณ์ใดๆ มาฉุดไว้เสียก่อน