ทางเลือกลงทุน ETF ในตลาดหุ้นเวียดนาม

17 ก.พ. 2565 | 01:27 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.พ. 2565 | 08:33 น.

เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามอง ทั้งในด้านศักยภาพของตลาดแรงงาน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GDP ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง นักลงทุนไทยที่สนใจจะลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม สามารถลงทุนได้ผ่าน DR หรือลงทุนในกองทุนรวม ETF ซึ่งมีถึง 9 กองทุน

นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นักลงทุนไทยเริ่มสนใจที่จะแสวงหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นเวียดนามก็ร้อนแรงที่สุดตลาดหนึ่งของโลกในปีที่ผ่านมา หลังดัชนีหลักอย่าง VN-INDEX ปรับเพิ่มขึ้นถึง 36% ในขณะที่มูลค่าหุ้นในเชิง P/E Ratio อยู่ที่ประมาณ 13 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงต้นปี 2565 รัฐบาลเวียดนามเพิ่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นราว 4.3% ของ GDP นับว่ามีขนาดสูงหากเทียบกับกลุ่มประเทศในระดับเดียวกัน

 

ด้วยเหตุนี้ นอกจากการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามผ่าน DR (Depositary Receipt) หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดย DR ตัวแรกและหนึ่งเดียวในตลาดหุ้นไทย คือ E1VFVN3001 ซึ่งอ้างอิงกับดัชนี VN30 ของเวียดนาม ยังมีกองทุนรวม ETF อื่น ๆ ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นเวียดนาม ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุนไทย โดยมีทั้งหมด 9 ตัว หรือแบ่งตามกลุ่มดัชนีที่อ้างอิงได้ทั้งหมด 5 ดัชนี ดังนี้

 

1. VN30 เป็นดัชนีที่ประกอบไปด้วยหุ้นเวียดนามชั้นนำ 30 บริษัทแรกที่ถูกคัดเลือกด้วยเกณฑ์ต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ โดยดัชนี VN30 มีมูลค่าตลาดกว่า 77% ของทั้งตลาด จึงมักถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นเวียดนาม โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกัน โดย 1 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2565) สามารถสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 27%
 

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล โดยเฉพาะความแตกต่าง เช่น มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) สภาพคล่อง ค่าธรรมเนียมการจัดการ และ Tracking error เป็นต้น
 


 

  • E1VFVN30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 โดย Dragon Capital VietFund Management (DCVFM) มี AUM ราว 453 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับว่าสูงที่สุดในจำนวน ETF ทั้ง 4 ตัว ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.65% ต่อปี และยังเป็นหลักทรัพย์อ้างอิงของ DR E1VFVN3001 ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอีกด้วย
  • FUESSV30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 โดย SSI Asset Management มี AUM ราว 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันราว 1 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ ถือว่ายังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักเมื่อเทียบกับ ETF ตัวอื่น ๆ ในเวียดนาม โดยมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 0.55% ต่อปี
  • FUEKIV30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 โดยบริษัทสัญชาติเกาหลี KIM Vietnam Fund มี AUM ราว 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 3 แสนเหรียญสหรัฐฯ โดยมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 0.55% ต่อปี
  • FUEMAV30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 โดยบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ Mirae Asset Fund Management มี AUM ราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 8.6 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.60% ต่อปี

 

2. Vietnam Diamond เป็นดัชนีที่มีเงื่อนไขว่าหุ้นที่เป็นส่วนประกอบจะต้องมีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นอย่างน้อย 95% ของสัดส่วนที่สามารถลงทุนได้ (ภาษานักลงทุนเรียกว่าเป็นหุ้นที่มี Foreign Room ใกล้เต็ม) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของนักลงทุนต่างชาติ (รวมถึงนักลงทุนไทย) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นเวียดนาม โดยไม่ต้องซื้อหุ้นที่ราคาพรีเมี่ยมซึ่งแพงกว่าตลาดถึง 15 – 40%
 
 

ในปัจจุบันดัชนี Vietnam Diamond มีหุ้นเป็นส่วนประกอบทั้งหมด 18 ตัว โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีอยู่ 1 ตัว ได้แก่  FUEVFVND หรือ Diamond ETF ที่นักลงทุนชาวไทยคุ้นเคยกันดี เริ่มจัดตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 โดย FUEVFVND มี AUM ราว 574 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับว่าสูงที่สุดในบรรดา ETF ทั้งหมดในตลาดหุ้นเวียดนาม ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.80% ต่อปี โดยใน 1 ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนไปกว่า 41% (ข้อมูล ณ 17 มกราคม 2565)

 

3. Vietnam Leading Financial เป็นดัชนีที่อ้างอิงกลุ่มธุรกิจการเงินในเวียดนาม ประกอบด้วยหุ้นธุรกิจการเงินอย่างน้อย 10 ตัว และจำกัดน้ำหนักหุ้นแต่ละตัวไม่เกิน 15% โดยในปัจจุบันมีหุ้นอยู่ทั้งหมด 19 ตัว โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มี 1 ตัว ได้แก่ FUESSVFL จัดตั้งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 โดย SSI Asset Management มี AUM ราว 156 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 3.6 แสนเหรียญสหรัฐฯ และค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.65% ต่อปี นับเป็น ETF กองแรกที่อิงรายกลุ่มอุตสาหกรรมในเวียดนาม
           

4. VNX50 เป็นดัชนีที่อ้างอิงหุ้นจดทะเบียนชั้นนำในเวียดนาม 50 ตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์และตลาดหลักทรัพย์ฮานอย โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีอยู่ 1 ตัว ได้แก่ FUESSV50 จัดตั้งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 โดย SSI Asset Management มี AUM ราว 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 2.3 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ และค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.65% ต่อปี

 

5. VN100 เป็นดัชนีที่อ้างอิงหุ้นชั้นนำ 100 ตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ คิดเป็นมูลค่าตลาดเทียบเท่าราว 85% ของดัชนีหุ้นโฮจิมินห์ โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีอยู่ 2 ตัว ได้แก่

 

  • FUEVN100 จัดตั้งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2563 โดย VINACAPITAL มี AUM ราว 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 4.7 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ และมีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.67% ต่อปี
  • FUEIP100 จัดตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 โดย IPAAM มี AUM ราว 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 1.5 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ และมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 0.60% ต่อปี

 

กล่าวโดยสรุป จะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นเวียดนามมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะในแง่ของจำนวนนักลงทุน ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน จำนวนบริษัทจดทะเบียน หรือทางเลือกในการกระจายลงทุนที่มีมากขึ้น อย่าง ETF ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศ การลงทุนใน ETF ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

 

อ้างอิงที่มา  :  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

โดย :  รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บล.บัวหลวง