ภารตะธรรม ดินแดนแห่งจิตวิญญาณ

06 ธ.ค. 2566 | 20:30 น.

ภารตะธรรม ดินแดนแห่งจิตวิญญาณ คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราชรามัญ

ไม่พูดถึงอินเดียในยามนี้คงจะไม่ได้ เชื่อหรือไม่ว่าในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคมนั้น คนไทยที่นับถือพุทธศาสนาจำนวนไม่น้อย ตลอดทั้งพระสงฆ์องค์เณรได้เดินทาง ไปรัฐพิหาร ในประเทศอินเดีย เพื่อแสวงบุญ กับสถานที่จริง ที่มีหลักฐาน บ่งบอกชี้ชัด ถึงสถานที่ ประสูติตรัสรู้ปฐมเทศนาปรินิพพาน และทั้ง 4 สถานที่นี้พระพุทธเจ้าทรงตรัสรองรับว่าผู้ใดที่ได้เดินทางมา น้อมจิต ด้วยความ สังวรในธรรมทั้งปวง เมื่อสิ้นแล้ว จากโลกนี้ เพิ่งไปอุบัติใน ภพภูมิที่ดี อย่างแน่นอน

พระสงฆ์ประเทศไทยในสายเถรวาท นับตั้งแต่ปีพ.ศ 2500 เป็นปฐมต้นมา ได้ไปสร้างวัดวาอาราม ไว้เป็นจำนวนมาก  วัดแรกที่ก่อกำเนิดก็คือวัดไทยพุทธคยา สร้างโดยจอมพลป.พิบูลสงคราม อันต่อมาจอมพลป.ถูกปฏิวัติหนีไปอยู่ญี่ปุ่น ในปี 2503 ยังได้มาอุปสมบทที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และจำวัดอยู่ที่วัดไทยพุทธคยาระยะหนึ่ง

วัดไทยพุทธคยา ในช่วงที่ พระสุเมธาธิบดี (บุญเลิศ ปธ.๘)​ แห่งวัดมหาธาตุ ได้ไปเป็นสมภาร ดูแลและเป็น หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสาย อินเดียเนปาล ได้ทำการบูรณะวัดไทยพุทธคยา เพื่อสำหรับรองรับญาติธรรมที่ไปจากเมืองไทย  จากนั้น พระเทพโพธิวิเทศ หรือหลวงพ่อทองยอด เป็นผู้ที่ รับสืบทอด จากพระสุเมธาธิบดี ให้เป็นสมภารเจ้าอาวาสและหัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย เนปาล อีกทั้งมาจากวัดมหาธาตุเช่นเดียวกัน

 

ภารตะธรรม ดินแดนแห่งจิตวิญญาณ

 

ประเทศอินเดีย ต้องบอกว่า มีมากมาย หลายศาสนาหลายลัทธิหลายนิกายบนดินแดนแห่งนี้จึงมีฝรั่งท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า ภารตะดินแดนแห่งจิตวิญญาณ ใครที่มีความทุกข์อยากแสวงหาความสุขอยากแสวงหาความจริงอยากแสวงหาความสงบไม่ว่าจะนับถือ ศาสนา ลัทธิหรือนิกายใดๆที่นี่มีให้คุณมากมายได้ลองลิ้มรสในการฝึกฝน เรียนรู้อยู่กับของจริง

จึงไม่น่าแปลกเลยที่มีผลงานวิจัยกล่าวว่าบนโลกใบนี้คนอินเดีย เป็นโรคมะเร็งน้อยที่สุด ด้วยเพราะเขาอาศัยการ ใช้ชีวิตด้วยจิตวิญญาณเป็นหลัก ตลอดทั้งพฤติกรรมในการกินอาหารก็เป็นอาหารมังสวิรัติถึง 80% ของประชากรในอินเดีย นิยมบริโภคเนื้อสัตว์น้อยมาก นี่เป็น 2 เหตุหลักที่ทำให้คนอินเดียแข็งแรงและไม่เป็นโรคมะเร็ง เหมือนชาติอื่นๆในเอเชีย

แม้ในปัจจุบันนี้พระสงฆ์ไทย ได้ไปจำพรรษาในอินเดียมากมายหลายวัดและไปอยู่ด้วยกันตระหนักรู้สำนึกรู้ในพระมหากรุณาธิคุณของ พระพุทธเจ้าและพยายามที่จะสืบทอดพระศาสนา และรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันงดงามแห่งความเป็นพุทธแบบเถรวาท

 

ภารตะธรรม ดินแดนแห่งจิตวิญญาณ

 

พระครูสังฆรักษ์กมลชัย ญาณโสภณโณ ได้เดินทาง พาทายาทธรรมไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินเดีย ยังได้รับนิมนต์เป็นองค์สวดปาฏิโมกข์ ในการสวดเพื่อให้พระภิกษุทั้งหลาย ได้ตรวจดูในพระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้า ทรงบัญญัติไว้และข้อวัตรปฏิบัติของตนเอง นี่เป็นประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม ในความเป็นพุทธ เถรวาท แบบประเทศไทย ซึ่งการลงปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือน จะทำให้พระภิกษุ ดำรงทรงไว้ในพระธรรมวินัย อย่างเข้มแข็ง

พระเทพโพธิวิเทศ เคยปรารภว่า พระภิกษุที่สามารถสวดปาฏิโมกข์ได้นั้น นอกจากมีสติปัญญาที่ดีเป็นบารมีแล้ว บุญเก่าที่ทำไว้ในพระศาสนา ขององค์ปาฏิโมกข์นั้น มีไม่น้อยทีเดียว ตลอดทั้งเมื่อสวดได้ ทุกครั้งที่ขึ้นสวดอานิสงส์นั้นก็จะปรากฏ ได้แก่ผู้เป็นองค์ปาฏิโมกข์ด้วย เทพเทวดาทั้งหลาย ถ้าได้รับรู้ได้ยิน จะทรงสรรเสริญสาธุ  ผู้เป็นองค์ปาฏิโมกข์จึงมิลำบาก มิค่อยเจ็บป่วยไข้รุนแรง เป็นผู้มี อุปฐากอุปถัมภ์มิขาดสาย ด้วยเหตุนี้แล

เคยมีพระภิกษุกลุ่มหนึ่ง เพิ่งสวดปาฏิโมกข์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ แม้เสียงสวดนั้นจะมิได้ดัง เพื่อไปรบกวนผู้ใดก็ตาม ขณะที่สวด ในยามวิกาลนั้น ทั้งที่เป็นฤดูหนาวกลับมีลมกรรโชกแรง หมุนวนเวียนไปมา ทำให้เกิด ความอัศจรรย์หลายอย่าง อาทิ ฟ้าแลบในฤดูหนาว เป็นต้น

 

ภารตะธรรม ดินแดนแห่งจิตวิญญาณ

 

ดังนั้น คนไทยชาวพุทธคนไหนที่มีวาสนามีบารมี ได้เดินทางไปภารตะดินแดนแห่งจิตวิญญาณ เพื่อเรียนรู้ฝึกฝน ย่อม นับได้ว่าเป็นผู้มีบุญมีวาสนา อย่างแรงกล้าอีกท่านหนึ่ง บุญกุศลเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริงไม่ต่างกับพลังงาน WiFi ที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง ดังนั้นใครก็ตาม ที่มีความเคารพศรัทธา ในพระพุทธศาสนา สักครั้งหนึ่งในชาตินี้ ถ้าได้เดินทางไปประเทศอินเดียแล้วกราบ 4 สังเวชนียสถานได้ ย่อมทำให้ มีความปิติอิ่มเอิบเบิกบานในจิตวิญญาณยิ่งและถ้ากลับมาชีวิตจะเปลี่ยนไปตลอดกาลในทางที่ดี อะไรที่ติดขัด ก็มักจะราบรื่น เพราะมีสติปัญญามีสมาธิมากขึ้นในการมองในการแก้ไข

พลังธรรมพลังบุญ เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง มนุษย์ทั้งหลายอยู่ได้เพราะพลังบุญ หมดบุญ ก็จากกันไป หมดบุญ ก็ต่างคนต่างไป ชีวิตก็แค่นี้เอง