ดวงเมือง การเมือง พ.ศ.2568 "คนการเมืองแตกแยก เกิดวิกฤตรุนแรง พร้อมหายนะแบบฉับพลัน"

ปีพ.ศ.2568 ดาวใหญ่จรย้ายสลับภพพร้อมกัน 3 ดวง คือ ดาวเสาร์ ดาวราหู และ ดาวพฤหัส
ในการจรย้ายครั้งนี้จึงกระทบกับภาคการเมืองมิใช่น้อย โดยเฉพาะส่วนของระบบรัฐสภากับการแก้กฎหมายต่างๆ และการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดทั้งด้านการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ส่อแววมีปัญหาหนัก 

เมื่อดาวราหู๘ จะย้ายวันที่ 5 พ.ค.2568 ก่อนย้าย 7 วันและหลังย้าย 7 วันย่อมส่งผลรุนแรงต่อภาคการเมืองแบบชนิดที่เซซวนอย่างรุนแรง ด้วยหลายเหตุปัจจัย ประชาชนไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาลในหลายๆ มิติ โดยเฉพาะเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้เกิดการต่อต้านอย่างเป็นวงกว้าง อีกทั้งด้วยความแตกแยกเพราะผลประโยชน์ ทำให้คิดถึงคำว่า 

"พวกเดียวกันแต่คนละพรรค 
ดีกว่าพรรคเดียวกันแต่คนละพวก"

เป็นความจริงขึ้นมาทันที... 

ดาวพฤหัสจรย้ายออกจากดาวมฤตยู มาสู่ราศีเมถุน ก็ต้องมาทักทายกับดาวมฤตยูเดิมของดวงเมืองที่ตั้งรับ สิ่งที่ปรากฏคนการเมืองฝ่ายรัฐบาลจะโดนมิตรแทงหลังเลื่อยขาเหยียบบ่าให้กระอัก เหลี่ยมคูของรัฐบาลนี้อ่อนหัดในเกมการเมืองและกฎหมาย ดาวพฤหัสเป็นดาวกฎหมายด้วย ดังนั้นความน่าจะเป็นไปได้สูงที่จะต้องจบเพราะอำนาจทางกฎหมาย  

เมื่อดาวราหู ยกย้ายไปราศีกุมภ์ ก็ทำให้ประเทศไทยอาจมีวิวาทะกับต่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านได้อีกครั้ง 

กลุ่มท๊อปบู๊ทที่ดูเหมือนจะหนักใจจากการที่ได้เจ้าของรหัสสนามไชยหนึ่งที่มาจากอดีตคนปีกซ้าย เรื่องที่ควรสั่งไม่สั่ง เรื่องที่ควรทำไม่ทำ ตลอดทั้งเรื่องเลื่อนยศปลดย้ายก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเช่นเดียวกัน เมื่อดาวเสาร์จรย้ายไปในภพวินาศของดวงเมือง แต่โยกถึงดาวอาทิตย์จรในราศีพฤษภ ดังนั้นความทั้งปวงจึงขัดแย้งแตกรัง ทั้งด้านแนวคิดและการกระทำ

สรุปความได้ว่า... ก่อนดาวราหูดาวเสาร์และดาวพฤหัสย้ายล้วนส่งผลกระทบกับรัฐบาลโดยตรง และเมื่อย้ายแล้ว รัฐบาลนี้ ก็จะหมดวาระหน้าที่ แบบชนิดที่คิดไม่ถึง เพราะกาลเวลาหายนะของรัฐบาลนี้เริ่มตั้งแต่ต้นปี ดึงรั้งได้มากสุดจบที่เดือนพฤษภาคม 2568 จะจบแบบไหน บอกได้ว่า ไปแบบไม่ได้ลา มีคดีความตามมาเป็นเงา ถ้ากฎหมายเอาไม่อยู่อำนาจแห่งท๊อปบู๊ทอาจจะเข้ามาจัดการแทน เผลอๆ เพลงคิดถึงลุงตู่ อาจดังลอยขึ้นมาในอากาศอีกครั้ง ก็เป็นได้