18 พฤศจิกายน 2563 ที่ประชุมรัฐสภา ประกอบด้วย ส.ส.และ ส.ว. ลงมติว่าจะรับหลักการ หรือไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 7 ฉบับด้วยการออกเสียงแบบขานชื่อแต่ละคนว่าจะลงมติแต่ละฉบับ โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระ 1 ขั้นรับหลักการ ต้องได้คะแนนเสียงเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่สองสภา หรือ 366 จาก 732 เสียง (จาก ส.ส. ปฏิบัติหน้าที่ได้ 487 คน และ ส.ว. 245 คน) ในจำนวนนี้ต้องเป็นคะแนนเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของวุฒิสภาที่มีอยู่ หรือ 84 คน
ล่าสุดผลการคะแนนอย่างไม่เป็นทางการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผ่านวาระ 1 แล้ว ด้วยตะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งและมี ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1ใน 3 เห็นชอบ
สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระ 1 ในขณะนี้ คือ
ฉบับที่ 1. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) 200 คน มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
ฉบับที่ 2.ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) นายวิรัช รัตนเศรษฐ กับคณะ เป็นผู้เสนอ สาระสำคัญคือ ให้มี ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญ (ม.256) ส.ส.ร. 200 คน มาจากเลือกตั้ง 150 คน เลือกจากกลุ่มต่างๆ 50 คน ร่างรัฐธรรมนูญภายใน 240 วัน