“ผู้ว่าฯโคราช” สั่งยุติจัด "คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น”

วันที่ 13 ธ.ค. 63 เวลา 12.00 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับสั่งให้ยุติการจัดงานคอนเสิร์ต “บิ๊กเมาน์เท่น” ที่เขาใหญ่ทันที เนื่องจากพบข้อร้องเรียนการไม่มีการมาตรการดด้านสาธารณสุขในการควบคุมการระบาดของโควดิ 19 

“ ในประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อมีมติเอกฉันท์ สั่งปิด คอนเสริต์บิ๊กเมาน์เท่น ครั้งที่ 11 หลังพบปัญหาร้องเรียนไร้มาตรการควบคุมโควิด 19 “ ผู้ว่านครราชสีมา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน'​ฉะ งานดนตรี "บิ๊กเมาน์เท่น เขาใหญ่" ไม่ปฏิบัติตามสธ.

ยอดโควิดติดเชื้อ 13 ธ.ค.63 ติดเชื้อโควิดรายใหม่ มาจากต่างประเทศ 17 ราย

จีนสั่งลูกเรือ สวมผ้าอ้อมในเที่ยวบินเช่าเหมาลำพื้นที่เสี่ยงโควิด-19

วัคซีนโควิด-19 ความหวังฟื้นฟู สังคม-เศรษฐกิจโลก

ขณะเดียวกัน มีรายงานจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงเมื่อเวลา 11.30 น. เพื่อรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563  ระบุด้วยว่า มีรายงานเพิ่มเติม จากงานเทศกาลดนตรี  "บิ๊กเมาท์เท่น" จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวานนี้(12 ธันวาคม 2563)  พบผู้ที่เดินทางมาจากเชียงใหม่ เป็นกลุ่ม 7คน ซึ่งเจ้าหน้าที่พบมีอาการป่วย มีไข้ 4คน จึงถูกแยกตัวไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช ขณะนี้รอผลตรวจเชื้อ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป  
 

วันนี้ (13 ธ.ค.63) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า ยังไม่มีไม่มีผู้ติดเชื้อจากเชียงใหม่ หรือจากที่อื่นๆ ไปในคอนเสิร์ตที่ปากช่องแต่อย่างใด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ มีผู้หญิงอายุ 43 ปี พร้อมเพื่อนอีก 7 คน ได้เดินทางจาก จ.เชียงใหม่ โดยเครื่องบินไปที่สนามบินดอนเมือง และนั่งรถตู้ไปที่งานคอนเสิร์ตที่ปากช่อง เมื่อไปพักที่ปากช่อง หญิงอายุ 43 ปี มีโรคประจำตัวอยู่เดิม คือ "กล้ามเนื้ออ่อนแรง" โดยเกิดการหายใจล้มเหลวต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ขณะนี้อยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ส่วนข้อกังวลว่าจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่นั้น นพ.โอภาส ระบุว่า ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้งตัวหญิงรายนี้ รวมถึงเพื่อน 7 คน รวมทั้ง คนขับรถตู้ ทั้งหมด "ผลเป็นลบ" ดังนั้น กรณีมีการรายงานข่าวว่าติดเชื้อ 8 คนนั้น "จึงไม่เป็นความจริง" ขอความร่วมมืออย่าส่งต่อข่าวต่อเพราะจะทำให้เกิดการตื่นตระหนก และเป็นเฟคนิวส์อาจจะผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้