ภายหลังการเสียชีวิตของ “แตกโม นิดา” นิดา พัชรวีระพงษ์ อายุ 37 ปี ซึ่งตกเรือสปีดโบ๊ท กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ต่อมาตำรวจได้ออกหมายจับกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ และเรียกตัวสอบปากคำ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ “ ไฮโซปอ” และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ เบิร์ต มาสอบปากคำแล้วนั้น
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (27 ก.พ.65) "กระติก" น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาว "แตงโม นิดา" พร้อมเพื่อน "แซน" นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจนนทบุรี เนื่องจากทั้ง 2 ถูกอ้างว่า อยู่ใกล้ "แตงโม นิดา" ในคืนเกิดเหตุมากที่สุด ก่อนที่ดาราสาวจะตกเรือ จมน้ำเสียชีวิต
หลัง "กระติก" และ "แซน" เดินทางมาถึงสภ.นนทบุรี "กระติก" ได้ร่ำไห้ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนยืนยันว่า ไม่มีการทะเลาะกัน และว่า "แตงโม" ได้ไปปวดท้องเบา และพยายามไปปัสสวะที่บริเวณท้ายเรือ จนทำให้พลัดตกน้ำ
กระติก เล่าอีกว่า วันนั้นได้เดินทางไปพบกันที่ท่าเรือประมาณ 4 โมงเย็น โดยทาง นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ “ไฮโซปอ” ได้บอกว่ามากับเพื่อนอีก 2 คน จากนั้นก็นั่งเรือไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารย่านจังหวัดปทุมธานี โดยสั่งอาหารมาประมาณ 8-9 อย่าง
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ก็ล่องเรือกลับในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ซึ่งระหว่างทางก็ถ่ายรูป ในช่วงที่เรือผ่านสถานที่ต่างๆ และช่วงที่ถ่ายรูปก็จะต้องใช้เวลา เพราะเรือโคล่งไปมา ฉะนั้น ก็จะทำการถ่ายรูปกันใหม่ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ
ในระหว่างล่องเรือกลับ ก็ไปถ่ายรูปที่สะพานพระราม 8 และขากลับกำลังจะนำเรือเข้าอู่จอดเรือ "แตงโม นิดา" ก็บอกว่า ปวดปัสสวะ และ "แตงโม" ก็เดินไป โดยมีแซน อยู่ด้านหลัง โดยมี ปอ กับ เบิร์ต ช่วยกันขับเรืออยู่ในตอนนั้น และทุกคนในเรือก็หันหน้าออกไปทางเรือ เพราะถ้าหันหลังให้เรือ ลมจะตีผม ทำให้หัวฟูมาก
ดังนั้น จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นว่า “แตงโม” ลุกขึ้นจะไปฉี่ที่ท้ายเรือ
ส่วนเรื่องที่ “แตงโม” ใส่บอดี้สูทแล้วจะถ่ายปัสสวะได้หรือไม่นั้น ตนในฐานะคนที่ใส่บอดี้สูท ยืนยันว่า สามารถถ่ายทำธุระได้ โดยไม่ต้องถอด ด้วยการใช้แหวกข้างเอาตามที่คนทั่วไปเขาทำกันในกรณีที่รีบ
ผู้จัดการแตงโม นิดา เล่าต่อว่า ระหว่างล่องเรือ ทุกคนก็หันหน้าไปด้านหน้าตลอด เพราะช่วงนั้นบรรยากาศดีมาก จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนว่า "แตงโม" ตกน้ำ จังหวะนั้น ปอ ที่ขับเรืออยู่ จึงได้หักเรือกลับ เพื่อมาช่วยเหลือทันที แต่ก็ไม่พบ แม้จะพยายามช่วยตามหาร่างของแตงโมหลายครั้งแล้วก็ตาม
“ทุกคนเหนื่อย และรู้ว่าจะต้องถูกสังคมกดดัน จึงได้แยกย้ายกันกลับไป และปรึกษาทนายความเพื่อขอต่อสู้กับความจริงที่เกิดขึ้น” ผู้จัดการแตงโม ระบุ
ด้าน แซน - วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์นั้น ตนเองนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เบาะท้ายของเรือ จากนั้นแตงโม ก็ลุกเดินมาจับขาตนไว้ข้างหนึ่ง และอีกมือหนึ่งก็จับขอบเรือเอาไว้ โดยบอกว่า ปวดปัสสวะ โดยที่ตนยังไม่ได้ลุกขึ้นมานั่ง ระหว่างนั้น “แตงโม” ก็ลื่นตกลงไปในแม่น้ำ ตนจึงรีบลุกขึ้นมา เพื่อจะช่วยด้วยการคว้ามือ
แต่ปรากฏว่า จุดที่แตงโมตกกับเรือที่แล่นไปข้างหน้า มีระยะห่างกันมาก แขนตนเอื้อมไปคว้าไม่ถึง ประกอบกับตนเองไม่มีหลักให้ยึด หากคว้ามือแตงโมได้ทัน ตนเองก็อาจจะเสียหลักร่วงตกลงไปในแม่น้ำด้วยเช่นกัน จึงได้ตะโกนร้องบอกว่า "แตงโม" ตกน้ำ จากนั้นจึงวนเรือกลับมาช่วยกันค้นหา แต่ก็ไม่พบร่างของ "แตงโม" แล้ว