KTBST ประเมินหุ้นไทยวันนี้ (21 ต.ค.)ตลาดยังเป็นบวกแต่ชะลอตัว

21 ต.ค. 2559 | 02:50 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ต.ค. 2559 | 09:18 น.
บล.KTBST ประเมินหุ้นไทยวันนี้ (21 ต.ค.) ตลาดยังเป็นบวกแต่ชะลอตัว ดัชนีอาจแกว่งในกรอบแคบมีสลับบวกลบ แนะเข้าเก็งกำไรสั้นๆ เลือกเป็นรายตัว มองกรอบดัชนีวันนี้ที่  1,485-1,500  จุด

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (21 ต.ค.) จากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลล่าร์ที่เป็นผลมาจากทั้ง ตัวเลขบ้านมือสองของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ที่ออกมาดี คือ เพิ่มขึ้น 3.2% จากเดือนก่อน และธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB คงนโยบายการเงิน โดยไม่ได้มีท่าทีที่จะปรับลด QE ที่จะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.ปีหน้าแต่อย่างใด ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ โดยมูลค่าพันธบัตรที่ ECB ซื้อตามโปรแกรม QE เดือน ก.ย. อยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านยูโร จากการที่ดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น จึงเป็นลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นยุโรป เพราะ ECB ยังใช้ QE อยู่ต่อไป ค่า Fed fund futures probability เดือน ธ.ค. ขยับขึ้นเป็น 67.6% จาก 64.3%

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงเล็กน้อยสวนทางกับค่าเงินดอลล่าร์ นักลงทุนยังเล็งผลบวกจากการลดการผลิตน้ำมันของบรรดาผู้ผลิตน้ำมัน โดยในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ (22-23 ต.ค.) รมว.พลังงานของรัสเซียและซาอุฯ จะหารือกันในเรื่องแผนการลดกำลังการผลิต ซึ่งสองฝ่ายต่างเป็นตัวแทนของกลุ่ม Non-OPEC และ OPEC และจากรายงาน Commodity Markets Outlook เดือน ต.ค. ของ World bank เมื่อคืนที่ผ่านมา คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ปีหน้าเฉลี่ย 55 เหรียญฯ สูงขึ้นจาก 43 เหรียญฯ ปีนี้ และประเมินว่า หากมีการลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันจะช่วยราคาน้ำมันได้เพียงสั้นๆ เรามองว่า upside ของราคาน้ำมันมีไม่มากนัก

ทั้งนี้ปัจจัยในประเทศ นักลงทุนต่างประเทศเดินหน้าซื้อพันธบัตรต่อและพลิกกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้ง ขณะที่เงินบาทเสถียรมากขึ้น อย่างไรตามดัชนีฯตลาดหุ้นไทยที่บวกติดต่อกันสองวัน จากความกังวลที่ลดลง แต่แรงบวกของตลาดนั้น เราเห็นว่ามีอยู่จำกัด จึงประเมินว่านักลงทุนบางส่วนยังไม่มั่นใจนัก วันนี้ตลาดจะซื้อขายวันสุดท้ายก่อนจะเข้าวันหยุดยาวอีกครั้ง แม้ภาพตลาดเรายังมองเป็นบวก แต่คาดจะน้อยกว่าวันก่อน จากการชะลอการลงทุนของนักลงทุนก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุด

ด้านผลประกอบการของบริษัทในตลาดจนถึงวานนี้ กำไรของ 12 บริษัทที่ส่งงบแล้ว รวม 4.8 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 13.48% YoYและ 4.39% QoQตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นในระหว่างวัน จะเป็นเรื่องค่าเงินบาท (เทียบกับเงินสกุลเอเชีย) และวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรี มีออก Event เกี่ยวกับเศรษฐกิจหลายงาน หากข่าวออกมาในทางบวกต่อเศรษฐกิจ จะมีผลมาถึงตลาดหุ้นด้วย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เรามองตลาดวันนี้แกว่งในกรอบแคบ อาจมีสลับบวกสลับลบให้เห็น การเข้าเก็งกำไรช่วงสั้นๆ จึงต้องเลือกเป็นตัวๆไป หุ้นที่แนะนำในวันนี้ได้แก่CPALL , IVL , ROBINS , TMT , LPH , WICE มองกรอบดัชนีวันนี้ที่1,485-1,500จุด